‘ศาสนาคริสต์’ ห้ามดูดวงจริงไหม? เปิดข้อปฏิบัติชาวคริสต์ ผ่านคัมภีร์ไบเบิล
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 (Miss Grand Thailand 2023) ที่ล่าสุด “เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์” มิสแกรนด์ลำพูน 2023 ปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมดูดวงไพ่ยิปซี โดยให้เหตุผลว่าเป็นความเชื่อของศาสนาคริสต์ที่ห้ามดูดวง ทำให้ “บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” หัวเรือใหญ่ของเวทีมิสแกรนด์ ถึงกับต้องร่ายยาวสอนถึงการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
ศาสนาคริสต์ ห้ามดูดวง ความเชื่อนี้ถูกหรือผิด?
จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้สังคมเสียงแตกแบ่งเป็นฝ่ายที่เข้าข้างเฌอเอม และฝ่ายที่เข้าข้างณวัฒน์ แต่ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นที่แบ่งพรรคแบ่งพวกนั้น ก็ยังมีหลายคนสงสัยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า “ศาสนาคริสต์ดูดวงได้หรือไม่?” วันนี้เดอะไทยเกอร์จึงถือโอกาสมาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นการดูดวงของชาวคริสต์มาฝากทุกท่านกันด้วย สามารถติดตามอ่านไปพร้อมกันได้เลย
‘ศาสนาคริสต์’ กับการ ‘ดูดวง’ เพื่อหยั่งรู้อนาคต ทำได้หรือไม่?
สำหรับศาสนาคริสต์นั้นมีข้อห้ามชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการดูดวงปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิล เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 18 : 9-14 กล่าวว่า
“เมื่อท่านทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน ท่านอย่าเรียนรู้ที่จะกระทำตามสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติเหล่านั้น
อย่าให้มีคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านซึ่งให้บุตรชายหรือบุตรสาวของเขาลุยไฟ อย่าให้ผู้ใดเป็นคนทำนาย เป็นหมอดู เป็นหมอจับยามดูเหตุการณ์ หรือเป็นนักวิทยาคม
เป็นหมอผี เป็นคนทรง เป็นพ่อมดแม่มด หรือเป็นหมอพราย
เพราะทุกคนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นที่สะอิดสะเอียนแด่พระเยโฮวาห์ และด้วยเหตุจากการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียนเหล่านี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจึงทรงขับไล่เขาออกไปจากเบื้องหน้าท่าน
ท่านทั้งหลายจงเป็นคนปราศจากตำหนิต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน
เพราะว่าประชาชาติเหล่านี้ ซึ่งท่านกำลังจะยึดครองนั้นเชื่อฟังหมอดูและพวกโหร แต่ส่วนตัวท่านนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงยินยอมให้ท่านกระทำเช่นนั้น”
นอกจากนี้ก็ยังมีคำสอนจะพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า “มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้อนาคต” ซึ่งอ้างอิงจาก อิสยาห์ บทที่ 8 : 19 ความว่า “และเมื่อเขาทั้งหลายจะกล่าวแก่พวกท่านว่า “จงปรึกษากับคนทรงและพ่อมดแม่มดผู้ร้องเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงพึมพำ” ไม่ควรที่ประชาชนจะปรึกษากับพระเจ้าของเขาหรือ ควรเขาจะไปปรึกษาคนตายเพื่อคนเป็นหรือ”
อาจกล่าวได้ว่า การดูดวงเพื่อทำนายอนาคตของตนเอง สำหรับคริสตชนนับว่าเป็นศาสตร์อื่นที่ไม่ได้มาจากพระวจนะของพระเจ้า และทำให้จิตใจของคริสตชนไขว้เขวออกจากพระเจ้าด้วย เพราะมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้และวางแผนอนาคตไว้สำหรับคริสตชนแล้ว ใยจึงต้องพึ่งพาการทำนายอนาคตจากผู้อื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าอีก ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าศาสนาคริสต์ห้ามดูดวง
‘ทำนาย’ และ ‘ดูดวง’ การพยากรณ์อนาคตที่ก้ำกึ่ง
ทั้งนี้หลายคนอาจเข้าใจว่าศาสนาคริสต์ห้ามไม่ให้คริสเตียนเชื่อในคำทำนายทุกประเภท ทว่าคำศัพท์ “ทำนาย” ทางราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของไว้ว่า หมายถึง “บอกเหตุการณ์หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยอาศัยสถิติ หลักเกณฑ์ หลักฐาน หรือตำราที่ยึดถือต่อ ๆ กันมา มักใช้กับการพิจารณาดวงชะตา เคราะห์ โหงวเฮ้ง หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ”
จากความหมายดังกล่าว ทำนาย จึงเป็นได้ทั้งในทางวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ เนื่องจากนิยามของคำนี้คือการบอกอนาคตของสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเหตุการณ์ทางธรรมชาติผ่านศาสตร์ต่าง ๆ ดังนั้นแล้ว ทำนาย กับ ดูดวง จึงไม่ใช่คำที่มีความหมายเดียวกัน
แต่หากพิจารณาตามคำนิยามของ ทำนาย ก็อาจอนุมานได้ว่า ดูดวง ถือเป็นหนึ่งในการทำนายอนาคต โดยเป็นการบอกอนาคตชะตาชีวิตของคนผ่านศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับไสยเวท ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางศาสนาคริสต์ต่อต้านตามข้อมูลในพระคัมภีร์ที่กล่าวอ้างไว้เบื้องต้น
ฉะนั้นแล้วหากเป็นการทำนายที่ไม่ได้มาจากศาสตร์แห่งไสยเวท เช่น การพยากรณ์อากาศที่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการบ่งบอกปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในอนาคต ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในศาสนาคริสต์ ไม่นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการดูดวงนั่นเอง