‘เอ ศุภชัย’ ประกาศข่าวช็อก เลิกปั้นดารา เหตุ ปัญหาเจ็บช้ำในบางเรื่อง
เอ ศุภชัย นักปั้นมือทอง ออกมาให้ ประกาศชัดผ่าน รายการแฉ เลิกปั้นดาราแล้ว เหตุเนื่องจากปัญหาหลายอย่าง โมหน้านางเอกเป็นล้านไม่ทันได้ถอนทุนคืน
ถือเป็นนักปั้นดาราแถวหน้าของวงการที่สร้างชื่อให้กับดารามาแล้วหลายคน สำหรับ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ที่ล่าสุดเธอก็ได้ออกมาประกาศกลาง รายการแฉ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 65 ผ่านมา ว่าต่อจากนี้เธอจะไม่ปั้นดาราแล้ว ขอใช้ชีวิตให้มีความสุข พร้อมย้อนเส้นทางนักปั้นมือทอง นางเอกคนหนึ่ง เคยทุ่มเงินเป็นล้านโมหน้า แต่ไม่ทันได้ถอนทุนคืน ก็จากตนไปแล้ว
ทั้งนี้เอได้เผยในรายการว่า ดูนางเอกในจอทีวี ยังไม่ทันได้ถอนทุนค่าหน้าคืน แต่ไปแล้ว ก็ทำใจ 6 เดือนหน้าเขาสวย เขาก็ไป ไม่ทันถอนทุนคืน ด้วยเหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจอยู่กับเราแล้วมายด์เซ็ตไม่ตรงกัน เขาอาจมีมายด์เซ็ตตรงกับที่อื่นมากกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เรามีตังค์แล้ว คิดว่าเขาคงลำบาก ถ้าไม่ลำบากเขาคงไม่ดิ้นรน จะปั้นดาราคนนึงถามว่าใช้เงินเท่าไหร่ ค่าหน้า 3-4 ล้านก็หมด บางคน 7 ล้านก็มี
ไม่อยากปั้นดาราแล้ว มันเหนื่อย อยู่ตรงนี้มา 25 ปีเต็ม ๆ สภาวะจิตใจบางทีไม่ทนต่อความเจ็บช้ำในบางเรื่อง ตอนนี้อยากมีความสุขแล้ว อยากใช้เงินที่หามาทั้งชีวิต ทำประโยชน์เพื่อสังคม ถ้าใครมีปัญหาเดินมาบอกได้เลย ถ้าช่วยได้เราก็จะช่วย เจออะไรมาเยอะ พยามคิดบวก ถ้ามีมายด์เซ็ตบวก ๆ คิดเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี เราก็มีความสุข
เมื่อก่อนไม่นอนเลย นอนวันละชม. ต้องออกไปเที่ยว เราทำอาชีพปั้นดารา เด็กก็ชอบเที่ยวกัน อาร์ซีเอ ข้าวสาร ตอนนี้คนถามว่าทำไมไม่ไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน เพราะชีวิตที่ผ่านมา นับจำนวนนอนคืนนึงได้ สมัยพี่ป๋อ ณัฐวุฒิ ถ่ายละครถึงเช้า พี่อั้ม พัชราภาถ่ายแม่นาค เราผ่านชีวิตตอนนั้นมาหมดแล้ว
คิดว่าฉันต้องเป็นแบบนี้จนตายเหรอ จำนวนวันทุกวันที่อยู่ต้องแก้ปัญหาของคนทุกคน เหมือนพ่อแม่มีลูก 3 คน ปัญหาไม่ใหญ่เท่าปัญหาที่เอแก้ ถ้าเจอภาวะแบบนี้หนักๆ กลัวภาวะซึมเศร้าจะเข้ามาหาตัวเรา
นอกจากนี้ เอ ศุภชัย ก็ได้เล่าประสบการณ์ครั้งแรกที่ตนได้เจอกับ ณเดช คูกิมิยะ ซึ่งได้เผยว่า รูปแรกในชีวิต ตอนอยู่ ม.3 เห็นหน้าปุ๊บไม่ได้เลย บินเลยค่ะ ถ้าเราไม่บินตอนนี้ คนอื่นก็บินก่อนเรา หน้าขนาดนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เห็นรูปตอนสิบโมง เที่ยงก็บินเลย เห็นแค่ครึ่งหน้าก็รู้อนาโตมี่หน้าหมดเลย
รู้ถึงขั้นว่าหน้าตอนอายุ 30 เป็นยังไง เราทิ้งไม่ได้ เหมือนเจอเพชร เราไปปุ๊บก็ไปรอหน้าโรงเรียน น้องณเดชน์เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ เขาไม่ให้เข้า เราก็ปีนรั้วเข้า ยามจับ เราเห็นเด็กคนนี้วิ่งอยู่ก็ปีนแล้วเรียกหนูๆ ครั้งแรกที่เขาเจอเรา เขากลัว เขาบอกให้คุยกับคุณแม่ แล้วบ้านณเดชน์อยู่ซอยเดียวกับ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ก็ให้คุณแม่เวียร์พาไปบ้านณเดชน์ ก็เลยได้คุยกับแม่แก้ว
เอ ศุภชัย ยังได้ทิ้งท้ายว่า การปั้นคนหนึ่งคนให้เป็นซูเปอร์สตาร์ไม่ใช่เรื่อง่าย การปั้นดารามันง่าย แต่การปั้นของเอ 1 คนคือ 1 ชีวิต คนที่ไม่ซักเซสหลายคน เรารับผิดชอบเขาแล้ว ทุกวันนี้ยังเลี้ยงดูแลอยู่เลย ส่งเรียนทุกคน ถ้าคนไม่สำเร็จก็ส่งเรียนให้เขาได้ประกอบอาชีพ
กว่าคนนึงจะเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ เหมือนการปั้นแบรนด์ 1 แบรนด์ เราต้องรู้ก่อนว่าคนนี้โจทย์เราจะให้เป็นนางเอก พระเอก หรือตัวร้าย ถ้าโจทย์เป็นพระเอก ต้องสวยต้องหล่อ ต้องร้องเพลงเพราะ น้องๆ ต้องเกรดเอจริงๆ ถ้าของที่เรามีไม่ดีที่สุดเขาก็ไม่เลือก ฉะนั้นของที่เรามีต้องเป็นเพชรจริงๆ เขาถึงเลือก ถ้าของที่เรามีเท่าคนอื่น เขาก็เลือกคนอื่น
https://www.youtube.com/watch?v=XDV4IgUrmYY