แจงยิบ! แมงมุม กิติพัฒน์ ใช้หนี้แทนแม่แล้ว 6 แสน บอกสาเหตุทำไมใช้หนี้ช้า
แจงยิบ! แมงมุม กิติพัฒน์ ใช้หนี้แทนแม่แล้ว 6 แสน บอกสาเหตุทำไมใช้หนี้ช้า ขอโทษที่ทำให้เรื่องราวบานปลาย ยืนยันทำเต็มที่ที่สุดแล้ว
สืบเนื่องจากกรณีตั้งแต่ปี 2562 ที่ อดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง เคยออกมาร้องเรียนความยากลำบากผ่านสื่อ เพราะค้ำประกันเงินกู้ให้ แม่ของแมงมุม กิติพัฒน์ ดาราหนุ่มชื่อดัง จนต้องใช้หนี้แทน
หลังจบการออกรายการโหนกระแส แม้ว่าเวลาผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว ผอ.ก็ได้ออกมาร้องผ่านสื่อทั้งน้ำตาอีกครั้งในปี 2565 ว่า ตอนนี้ชีวิตลำบากมาก เพราะเงินแต่ละเดือนถูกหักไปใช้หนีแทนแม่ของแมงมุม จนเงินกินแทบไม่เหลือ
ล่าสุด ทางแมงมุม กิตติพัฒน์ก็ได้ออกมาชี้แจงละเอียดยิบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าชีวิต 3 ปีที่ผ่านมาของตนเป็นอย่างไรบ้าง ยืนยันไม่ได้เจตนาหนีหนี้ พร้อขอโทษที่ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย ตอนนี้แมงมุมได้โอนเงินใช้หนี้แทนแม่แล้วจำนวน 6 แสนบาท ซึ่งได้แนบสลิปการโอนเป็นหลักฐาน พร้อมแคปชั่นอธิบาย ดังนี้
“เรื่องราวเป็นคดีที่เกิดกับคุณแม่ของผม เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมพึ่งทราบเรื่องคดีนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเป็นที่มา ที่ได้ไปเคลียร์กับคู่
กรณีของคุณแม่ผมที่รายการโหนกระแส ก็จบความที่ว่า ผมในฐานะลูกจะชดใช้และผ่อนจ่ายให้ (ในตอนที่ตกลงนั้นพูดตรงๆเลยคือไม่มีเงินคับ ณ ช่วงเวลานั้น เพราะ เป็นช่วงที่ผมล้มพอดี หนี้จากธุรกิจเก่าเยอะประกอบกับค่าตัวนักแสดง
ตอนนั้นก็ไม่ได้เยอะคับจึงใช้เดือนชนเดือนถึง ติดลบมาโดยตลอด ผจก.ผมจะรู้ถึงความเป็นอยู่ผมในช่วงนั้นดี) ต่อมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างตัวเพื่อที่จะให้ตัวเองมีกำลังพอที่จะพัฒนาฐานะทางการเงินของตัวเรา เพื่อที่จะใช้หนี้ให้ตัวเองและของครอบครัว ย้ำนะคับ!!! ว่าหนี้ไม่ได้มีแค่ก้อนนี้คับ
ผมในฐานะหัวหน้ครอบครัว ก็พยายามที่จะเลี้ยงดูคุณแม่มาตลอดไม่ว่าตอนมีหรือตอนไม่มี ซึ่งระยะเวลาที่ผมสร้างตัวก็ราวๆ2-3 ปี ซึ่งยอมรับเลยคับว่าสาหัสมากทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและช่วงโควิด ทำให้ธุรกิจทั้งหมดพัง ถ่ายละครก็ถ่ายไม่ได้ รู้สึกช่วงนั้นผมจะเป็นเทรนเนอร์ด้วยคับ ก็แน่นอนคับ ยิมปิด คุณพระ!!! หาเงินจากที่ไหนล่ะเนี่ย แต่ในที่สุดผมก็ผ่านมันมาได้ ผมพึ่งมาตั้งตัวได้ประมาณเกือบ 1 ปี จึงได้เริ่ม จัดสรรเงินดังนี้
1.เก็บเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ
2.ลงทุน
3.ทำบุญ
4.ดูแลครอบครัว
5.ใช้ชีวิต
6.ใช้หนี้
ผมได้ตั้งใจใช้หนี้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นของตัวเองและครอบครัวมาตลอด ซึ่งโชคร้ายตรงที่คุณยายผมก็ป่วยพอดี ยายผมเป็นโรคอัลไซเมอร์+โรคกระดูก +โรคพาร์กินสัน ใครที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้านจะรู้ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งทำให้ผมต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายในทุกๆด้านให้ลงตัว ให้ทุกคนรอบตัวผมไม่รู้สึกว่าขาดหรือรู้สึกว่าผมไม่มีหรือดูแลไม่ได้
ผมเองไม่เคยหนีหายหรือติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ทาง ผจก.ได้ ยืนยันแล้วว่าไม่มีการติดต่อมาเพื่อทวงถามหนี้ตลอด 3 ปีนี้หลังจากจบรายการโหนกระแส แต่ตัวผมเองไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องหนี้ก้อนนี้ เพียงแต่ผมจัดลำดับการใช้หนี้ไว้แล้ว (ซึ่งข้อนี้ผมยอมรับผิดที่ผมจัดการได้ช้าไปคับ)
เงินที่ผมได้มาในส่วนของการจัดสรรใช้หนี้ผมได้จัดสรรไว้เป็นลำดับจะไม่ได้หามาเพื่อใช้หนี้ให้หมดใน 1-2 เดือนเพราะยังมีภาระหน้าที่อื่นๆที่จะต้องรับผิดชอบด้วย
ตลอดเวลาที่ผมเติบโตมา ผมแยกกันอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ อนุบาล 2 โดยมียายกับตาและน้า เลี้ยงมา แต่เมื่อผมโตขึ้นและได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร ผมรับจบให้หมดเพราะผมคือลูก
ดังนั้นวันนี้ผมได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกโดยการชำระหนี้ทั้งหมดให้กับคุณแม่ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท และได้แนบหลักฐานไว้แล้วคับ
สุดท้ายนี้ต้องขอโทษครอบครัว ขอโทษแฟน ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปายไม่ได้ชำระหนี้จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียในวันนี้ แต่ยังยืนยันในวันนี้คับว่า ผมทำเต็มที่และรีบสุดในชีวิตแล้วคับ ขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะคับ …
mangmum_kitipat”