มือซ้อม-รุมกระทืบลุงทวงค่าแรง ยังเกรี้ยวกราด ไม่สำนึกผิด
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปทะเลาะวิวาท และมีกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชายวัยกลางคน ภายในซอย ตม.สวนพริกไทย โดยชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้จับคนขับรถเก๋งล็อกเอาไว้ ส่วนชายสวมเสื้อสีดำอีกคนได้รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ก่อนจะเตะซ้ำจนคนขับรถเก๋งล้มลงคล้ายหมดสติ ล่าสุดวานนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ. 1 ได้เดินทางเข้าสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
ทั้ง 3 คนนี้ประกอบด้วย 1.นายธันวา หรือ บิ๊ก ทรัพย์สินไพบูลย์ อายุ 30 ปี คนต่อย 2.นายไพโรจน์ หรือ หมุด สีทอง อายุ 34 ปี คนขับบิ๊กไบค์ และ 3.นายรามัญ หรือ ดำ คงแป้น อายุ 27 ปี คนล็อคแขน
ผู้ต้องหาทั้ง 3 นั้นได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังทนต่อการถูกติดตามกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว โดยนอกจาก 3 คนนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกรายคือ น.ส.นันท์นภัส ทิพย์กังวานวงศ์ ภรรยาของนายธันวา ซึ่งร่วมงานแต่งงานของญาติ ที่จ.หนองบัวลำภู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบภามนายธันวา ว่าจะขอโทษผู้ต้องหาหรือไม่ ระหว่างขึ้นรถ โดยนายธันวามีท่าทางเกรี้ยวกราด พยายามเบียดสื่อมวลชน และ ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ก่อเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กลุ่มของนายธันวานั้นเป็นลูกน้องของนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งคนในพื้นที่สวนพริกไทยและปทุมธานี จะรู้จักเสี่ยหมูหรือนายธันวาเป็นอย่างดี
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ยังมีบางรายที่ให้การภาคเสธ โดยจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนั้น นายรามัญหนึ่งในผู้ต้องหา เพิ่งพ้นโทษคดีทำร้ายร่างกายจากเรือนจำมาได้ไม่นาน ก็มาก่อเหตุซ้ำ สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น นายธันวาไม่พอใจและโกรธนายสมบัติผู้เสียหาย ที่นำเรื่องค้างจ่ายค่าแรงของญาตินายสมบัติมาแจ้งกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปทุมธานี จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุนายสมบัติผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า ในวันที่ 21 พ.ย. นัดเจรจากับ นายธันวา เรื่องค้างค่าจ้างแรงงานของญาติ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อตกลงและจ่ายเงินค่าจ้างกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถออกมาพร้อมภรรยาและลูก
ขณะขับรถถึงบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว นายธันวาขับขี่รถยนต์มากับน.ส.นันท์นภัส และนายรามัญ ส่วนนายไพโรจน์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำหน้ารถยนต์ผู้เสียหายเมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายไพโรจน์ หยุดรถจักรยานยนต์ขวางทางเดินรถของผู้เสียหาย และนายธันวาก็หยุดรถปิดท้ายรถผู้เสียหาย จากนั้นนายธันวาลงจากรถมากระชากประตูรถผู้เสียดึงตัวผู้เสียหายลงจากรถ
ส่วนนายรามัญเดินเข้ามาจับล็อคแขนผู้เสียหายไว้ และนายธันวาใช้หมัดชกและใช้เท้าแตะทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งจากการดูคลิปมีการต่อย 8 ครั้ง และเตะอีก 9 ครั้ง จนผู้เสียหายล้มลงแล้ว ก็ยังเตะซ้ำอยู่ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้สังคมไทยเรารับไม่ได้ ภายหลังจากก่อเหตุผู้ก่อเหตุขับรถหลบหนีไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า สำหรับร้านอาหารอีสานของนายธันวานั้น ตำรวจจะขยายผลว่าเปิดร้านถูกต้องหรือไม่ รวมถึงแรงงานลูกจ้างในร้าน ว่าจ้างมาอยู่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ด้วย ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น พร้อมคัดค้านการประกันตัว และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปทุมธานี
ในเวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสวนพริกไทยได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาขออำนาจศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลวิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปในระหว่างการสอบสวน โดยตีราคาประกันคนละ 32,000 บาท
ที่มา ข่าวสด