รัฐบาลแถลง เงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท เลื่อนไทม์ไลน์ใหม่ เปิดลงทะเบียนร้านค้า ไตรมาส 3 และ แจกเงินประชาชน ภายในไตรมาส 4
แม้ว่าติดขัดปัญหาหลายประการ จนทำให้ยโบายหลักของรัฐบาลเพื่อไทยอย่าง “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ล่าสุดวันนี้ 25 มีนาคม 2567 มีความคืบหน้ามาให้ประชาชนได้มีความหวังบ้าง เมื่อนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ดูแลโครงการนี้ ได้ออกมาแถลงไทม์ไลน์วันแจกเงินดิจิทัลใหม่
เบื้องต้นคณะอนุกรรมการเงินดิจิทัลวอลเลตใกล้สอบถามความจริงเสร็จแล้ว และวันที่ 10 เมษายน 2567 จะจัดประชุมคณะกรรมการเงินดิจิทัลชุดใหญ่ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน
ส่วนไทม์ไลน์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับประชาชนนั้น นายจุลพันธ์ระบุว่า ภายในไตรมาสสามปีนี้ หรือกรกฎาคม-กันยายน 2567 จะเปิดให้ลงทะเบียนร้านค้า และภายในไตรมาส 4 หรือ ตุลาคม-ธันวาคม 2567 จะเติมเงินให้ประชาชนทุกคนตามหลักเกณฑ์ที่เคยแถลงไปแล้ว
สรุปไทม์ไลน์ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตล่าสุด
27 มีนาคม 2567 – ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล
29 มีนาคม 2567 – นำรายงานข้อเสนอแนะของปปช.อย่างเป็นทางการเข้าสู่ที่ประชุมรับทราบและมอบหมายให้กระทรวงการคลังเดินหน้าโครงการฯ
10 เมษายน 2567 – สรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา คาดว่าไม่ทันก่อนสงกรานต์ แต่จะให้เร็วที่สุด
กรกฎาคม-กันยายน 2567 – เปิดลงทะเบียนร้านค้าเงินดิจิตอล
ตุลาคม-ธันวาคม 2567 – แจกเงินประชาชน เบื้องต้นคาดว่าใช้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
เงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใครได้บ้าง
ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงสรุปเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท วงเงิน 5 แสนล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 66 นั้นระบุเกณฑ์เงื่อนไขรับสิทธิ์เบื้อง 3 ข้อ ต้นดังนี้
1. รัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่าย 1 หมื่นบาท ให้กับคนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท
2. สำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาท แต่เงินฝากน้อยกว่า 5 แสน และผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาท แต่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิเงินดิจิทัลในครั้งนี้ แต่จะได้ใช้สิทธิโครงการ E-refund แทน
3. รัฐบาลจะให้สิทธิประชาชนใช้จ่ายภายในระยะ 6 เดือน หลังจากที่โครงการเริ่ม และขยายพื้นที่การใช้จ่ายครอบคลุมถึงระดับอำเภอ ตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นมา พร้อมกับใช้เงินเพิ่มขีดความสามารถ ภายใต้งบ 1 แสนล้านบาท ส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่
หมายความว่า เมื่อได้เงินมาแล้วภายในไตรมาสสี่ ปี 2567 จะต้องใช้เงินครั้งแรกภายในไตรมาส 2 ปี 2568 ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกดึงกลับเข้าระบบ เมื่อใช้จ่ายแล้วจะต้องใช้ให้หมดภายใน เดือนเมษายน 2570
ทั้งนี้ รายละเอียดเรื่องเกณฑ์การรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท มีการปรับเปลี่ยนแตกต่างไปจากเดิมที่เคยระบุเอาไว้ 3 ประการว่า 1. ผู้เข้าเกณฑ์จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีไม่มากกว่า 500,000 บาท 2. ตัดสิทธิ์ผู้ที่มีรายได้เกิน 2.5 หมื่นบาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีมากกว่า 1 แสนบาท และ 3. ได้เฉพาะผู้ที่มีบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้ออะไรได้บ้าง
- ประชาชนจะสามารถใช้ซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคได้เท่านั้น
- ไม่สามารถใช้กับบริการได้
- ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ได้
- ไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม และผลิตภัณฑ์จากกัญชาและพืชกระท่อม
- ไม่สามารถนำไปซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณีได้
- ไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้
- ไม่สามารถจ่ายค่าเรียน ค่าเทอม ได้
- ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้
- แลกเป็นเงินสดไม่ได้ แลกเปลี่ยนในตลาดต่างๆ ไม่ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครม. รับข้อเสนอ ป.ป.ช. นโยบายแจกเงินดิจิทัล หาข้อยุติภายใน 30 วัน
- ชัวร์แล้ว เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อทองได้ไหม
- เงินดิจิทัล 10,000 บาท ห้ามซื้อของออนไลน์-อบายมุข ใช้งานได้ 6 เดือน