จากกรณีที่มีกระแสข่าว ขึ้นค่าประปา นั้น ล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่าขณะนี้ ยังไม่เสนอประเด็นดังกล่าวเข้ารัฐบาล สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะสม
นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการประปานครหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับขึ้นค่าน้ำ จากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นว่าขณะนี้ยังทาง กปน. ยังไม่ได้ ยังไม่ได้รับการประสานจากการประปานครหลวง ว่าจะเสนอขอปรับเพิ่มค่าน้ำประปาตามที่เป็นข่าว
นายนริศกล่าวว่า “ส่วนตัวมองว่าน่าจะไม่มีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาในรัฐบาลนี้ เพราะยังไม่เหมาะสม เนื่องจากยังอยู่ในสถานการณ์ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาภาระค่าครองชีพ”
ก่อนหน้านี้ นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการ การประปานครหลวง หรือ กปน. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กปน. ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบด้วย
1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน. ต้องเสีย 150 ล้านบาทต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย
2. ค่าน้ำดิบ จ่ายให้กับกรมชลประทาน วันละ 3 ล้านบาท
3. ค่าไฟ เพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟทีของรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์
4. ค่าธรรมเนียมการวางท่อ ที่เพิ่มเป็น 100 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ตามข่าว ผู้ว่าการ กปน. ยืนยันว่า แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ กปน.จะตรึงค่าน้ำไว้ให้นานที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล ยังไม่ต้องการให้ขึ้นค่าประปา ขณะเดียวกันจะพยายามบริหารจัดการต้นทุนทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ไฟฟ้า โดยจ่ายน้ำตามความต้องการใช้ เป็นต้น
