‘ตงตง’ เปิดใจสาเหตุหวานน้อยลง ‘เบสท์ คำสิงห์’ รับเคยเป็นคนเจ้าชู้
ตงตง กฤษกร ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงสาเหตุช่วงนี้หวาดน้อยลงกับแฟนสาว เบสท์ คำสิงห์ วอนอยากให้ทุกคนเคารพกันตัดสินใจ ยอมรับเคยเป็นคนเจ้าชู้
เรียกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยจะเห็นคู่รักคู่นี้หวานออกสื่อกันเท่าไหร่ สำหรับคู่ของนักร้องนักแสดง ตงตง กฤษกร กับแฟนสาว เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้สาวเบสก็ได้ออกมาพูดสัมภาษณ์กับรายการหนึ่งว่า ถ้าใครมีหลักฐานว่าแฟนของตนเจ้าชู้ให้ส่งมา และถ้าพบว่าเป็นเรื่องจริงก็จะเลิก
ล่าสุด 23 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา หนุ่ม ตงตง ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เข้าใจแฟนสาวจะสื่อ ซึ่งตนยอมรับว่าเมื่อก่อนเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้หยุดแล้ว
จากประเด็นที่เบสท์พูดในรายการหนึ่ง บอกว่าถ้าตงตงเจ้าชู้จะออกมาจัดการเองเลย?
ตนเคารพการตัดสินใจของเขา คือเบสท์เขาชัดเจน ด้วยความที่เขาเป็น YouTuber คือจะให้ผมทำยังไง คือผมแทบจะไม่ได้ดูโซเชียล ก็ได้ดูไฮไลต์บ้างแต่ไม่ได้ดูเต็ม ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้ฟังมันก็รู้สึกเป็นธรรมชาติของน้อง แต่ผมก็เข้าใจผู้หญิงนะ เขาก็จะทำตามความรู้สึกของเขา เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามได้
แล้วจริง ๆ เราเป็นคนเจ้าชู้เหรอ?
ยอมรับ คือจริง ๆ จะบอกทุกคนเสมอนะว่า เราเป็นคนเจ้าชู้ กับเบสท์เราก็ยอมรับมาตั้งแต่ตอนแรกเลย พูดกับแม่เขาด้วยว่าเราเจ้าชู้นะ แต่พอได้มาคบกับเบสแล้ว เราก็ไม่มีนอกลู่นอกทางเลย ไม่ใช่เพราวะว่าเบสท์ดุ แต่ เบสท์เขาเป็นคนดี สิ่งหนึ่งที่เขาดี คือเขาเป็นคนที่กตัญญู เก่ง ตั้งใจในการทำงานดูแลครอบครัว แล้วเขาจริงใจ
เบสท์ เป็นคนหวงไหม?
มองว่าผู้หญิงทุกคนก็หวงแหละ เบสท์เองก็หวง เพราะฉะนั้นผมจะทำอะไรได้ก็นอกจากแค่ไม่มากระทบกับงานเราแค่นั้นก็พอ หลาย ๆ คนก็บอกเราไปเล่นกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งเราก็อยากให้ทุกคนเข้าใจ ซึ่งเบสท์เขาก็ค่อนข้างเข้าใจ และเขาก็เคยบอกตอนที่จะคบกันแล้วว่า ถ้าเจ้าชู้ก็คือจะไม่เอา
2 ปีนี้ยังมีอะไรที่จะต้องปรับจูนกันอีกไหม?
มี ไม่ว่าจะกี่ปียังไงมันก็ต้องปรับจูนกันมองตนเองก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย เบสท์เองก็ต้องอยากเรียนรู้อะไรอีกมากมาย มันก็ต้องปรับจูนกันอีกเรื่อย ๆ อาจจะมีทะเลาะกันไม่เข้าใจกันมันก็ต้องปรับจูนกัน มันไม่มีใครหรอกที่จะคบกันแล้วเข้าใจกันเลย 100 เปอร์เซ็นต์ มันก็จะต้องมีอุปสรรคหลาย ๆ อย่างเข้ามา
แล้วเรื่องอะไรที่ส่วนใหญ่มันไม่เข้าใจกัน?
ก็จะเป็นเรื่องของการขี้งอน มันก็เป็นเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ แต่บางครั้งถ้ามันเยอะไป ก็อาจจะต้องมีการพูดคุยกันบ้าง ลดลงได้ไหม มันประมาณนี้ได้ไหม
แต่ภาพที่ออกมาหลัก ๆ คู่เราจะไปทางสวีตกันมากกว่า?
ใช่หลัก ๆ คนที่ดูเรา เขาก็จะอยากดูแต่สิ่งที่มันมีความสุขเวลาที่ทะเลาะกันเราก็คงไม่ได้ถ่าย เพราะว่าสุดท้ายแล้ว เราว่าเรื่องที่ทะเลาะกันมันก็เป็นสิ่งที่เราทั้งคู่อาจจะต้องมาคุยกันปรับความเข้าใจกันแล้วก็ตัดสินใจกันว่ายังไง เพราะฉะนั้นผมก็อยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของผม แต่ก็เข้าใจนะว่าทุกคนก็จะคาดหวังให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ว่าความรักครั้งนี้ เราไม่สามารถที่จะทำตามในสิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้ อยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของเรากับเบสท์
บางคนก็จะมองว่า อ่าว ทำไมไม่มีโมเมนต์หวาน ๆ เหมือนเมื่อก่อนเลย คืออยากจะบอกว่า เมื่อก่อนมันอยู่ในช่วงที่เป็นสถานการณ์โควิดแล้วเราทั้งคู่ก็เลยมีเวลาในการที่ใช้ชีวิต ได้ถ่ายคลิปให้ทุกคนได้เห็นเยอะพอสมควร แต่พอตอนนี้สถานการณ์มันดีขึ้นมาแล้วเราเองก็มีงานละครเข้ามา เขาเองก็มีละครด้วย ไหนจะถ่าย YouTube อีก เวลาที่เราเจอกันมันก็น้อยลง โมเมนต์หวาน ๆ มันก็เลยอาจจะไม่มีให้ เห็นบ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน
ความคาดหวังของคนมันกดดันกับเรามากน้อยแค่ไหน?
ถามว่ากดดันไหม ส่วนตัวมองว่า สุดท้ายแล้วผมก็ไม่สามารถทำตามความคาดหวังหรือทำตามความต้องการของใครได้ ก็ต้องขอโทษไว้ด้วย แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือรักกัน แล้วก็มีแต่ความสุขเท่านั้นเอง แม้จะถ่ายโมเมนต์หวานๆน้อยหน่อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าผมก็ต้องทำงานด้วย แต่อยากจะให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้มากกว่า