ปิดตำนาน “หัวใจ” แห่ง Limp Bizkit แซม ริเวอร์ส มือเบสผู้ร่วมก่อตั้งวง ลาโลกวัย 48 ปี

จากร้านไก่ทอดสู่เวทีโลก ปิดตำนานหัวใจแห่ง Limp Bizkit แซม ริเวอร์ส (Sam Rivers) มือเบสผู้ร่วมก่อตั้งวง ลาโลกวัย 48 ปี
วงการดนตรีนูเมทัลต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อ แซม ริเวอร์ส (Sam Rivers) มือเบสและหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งวงร็อกระดับตำนาน Limp Bizkit ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 48 ปี โดยทางวงได้ออกมายืนยันข่าวเศร้านี้ด้วยตนเองเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา
“แด่ความทรงจำถึง แซม ริเวอร์ส พี่ชายของพวกเรา วันนี้เราได้สูญเสียพี่ชาย, เพื่อนร่วมวง และจังหวะหัวใจของเราไป” ทางวงกล่าวในแถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรม “แซม ริเวอร์ส ไม่ใช่เป็นเพียงแค่มือเบสของพวกเรา เขาคือเวทมนตร์อันบริสุทธิ์ คือชีพจรที่เต้นอยู่ใต้ทุกบทเพลง คือความสงบเยือกเย็นท่ามกลางความโกลาหล และคือจิตวิญญาณที่อยู่ในทุกสุ้มเสียง”
ถ้อยคำจากพี่น้องถึงจังหวะที่หายไป
แถลงการณ์อันน่าสะเทือนใจยังคงดำเนินต่อไปว่า “ตั้งแต่โน้ตตัวแรกที่เราเคยเล่นด้วยกัน แซมได้นำแสงสว่างและจังหวะจะโคนชนิดที่ไม่มีใครสามารถทดแทนได้เข้ามา พรสวรรค์ของเขานั้นดูง่ายดาย, การปรากฏตัวของเขานั้นยากจะลืมเลือน และหัวใจของเขานั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน”
“เราได้แบ่งปันช่วงเวลาร่วมกันมานับไม่ถ้วน และทุกช่วงเวลานั้นมีความหมายมากขึ้นก็เพราะมีแซมอยู่ที่นั่น เขาคือมนุษย์ประเภทที่จะได้เจอเพียงครั้งเดียวในชีวิต คือตำนานที่แท้จริง และจิตวิญญาณของเขาจะยังคงมีชีวิตอยู่ในทุกท่วงทำนอง, ทุกเวที และทุกความทรงจำตลอดไป”
“เรารักนายนะแซม เราจะพานายไปกับเราเสมอ หลับให้สบายนะเพื่อน เพลงของนายจะไม่มีวันจบสิ้น – เฟร็ด, เวส, จอห์น และดีเจลีธัล”
จากร้านไก่ทอดสู่เวทีโลก
ชีวิตส่วนใหญ่ของแซมได้อุทิศให้กับดนตรี เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับจอห์น ออตโต มือกลองของวง และได้พบกับ เฟร็ด เดิร์สต์ ครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ขณะที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ที่ร้าน Chick-fil-A ด้วยกัน ก่อนที่ทั้งสามจะร่วมกันก่อตั้ง Limp Bizkit ขึ้นในปี 1994 และกลายเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีระดับโลกในเวลาต่อมา
การต่อสู้กับปีศาจและชัยชนะที่แสนสั้น
เบื้องหลังความสำเร็จ แซมต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพอย่างหนัก ในปี 2015 เขาต้องออกจากวงไปชั่วคราวจากโรคตับที่เกิดจากการดื่มอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี “มันเลวร้ายถึงขั้นที่หมอบอกกับผมว่า ถ้าคุณไม่หยุด คุณจะตาย ! และตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณต้องการตับใหม่'” เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้
แต่ด้วยจิตใจของนักสู้ เขาสามารถเอาชนะปีศาจร้ายได้สำเร็จ เขาเลิกดื่ม, เข้ารับการบำบัด และได้รับการปลูกถ่ายตับ ก่อนจะกลับคืนสู่วงอีกครั้งในปี 2018
“ผมกลับมาแล้ว และผมรู้สึกยอดเยี่ยมมาก” เขากล่าวในตอนนั้น ซึ่งเป็นคำพูดที่เมื่อหวนนึกถึงในวันนี้ ก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับทุกคน
ดีเจลีธัล ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสะเทือนใจว่า “เราใจสลาย จงมีความสุขกับทุกเสี้ยววินาทีของชีวิต เพราะมันไม่มีอะไรมารับประกันได้เลย”.
ที่มา : Manchestereveningnews






อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อกวงการกำปั้น ร็อคกี้หญิง ลาโลกวัย 47 ปิดตำนานแชมป์มวยสากล 6 สมัยซ้อน
- อดีตนักร้อง Lostprophets ผู้ก่อคดีใคร่เด็ก ดับอนาถคาคุก เปิดปมสลดก่อนลาโลกวัย 48 ปี
- ฌอน “ดีดดี้“ คอมบส์ เจอคุก 50 เดือน ทนายชี้ขัดหลักอเมริกัน-ลั่นสู้คดีต่อ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: