“ปูใบ้แดงลาย” โลกออนไลน์แห่เตือน ! หลังโผล่ จ.ระยอง เคสเก่าไต้หวันเกือบขิตยกครัว

ปูใบ้แดงลาย หรือปูใบ้เกล็ด อาจารย์เจษฎ์ออกมาเตือนแล้ว ! เป็น “ปูพิษ” เผลอรับประทานเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ก่อนหน้านี้เคยมีครอวครัวไตหวันหลงนำไปปรุงสุกจนเกือบขิตทั้งครอบครัว
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มเฟซบุ๊ก “นี่ตัวอะไร” มีคนเข้าไปโพสต์รูป “ปู” ซึ่งมีสีสันแปลกตาชนิดหนึ่งพร้อมๆ กับตั้งคำถามว่า “นี่ปูอะไรครับ ? มีคนลงรูปที่ จ.ระยอง แต่ยังไมทราบข้อมูลที่แน่ชัด เค้าบอกมีพิษ”
ต่อมาเพจอ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ช่วยเฉลยข้อสงสัยดังกล่าวจนทราบว่าเป็น “ปูใบ้แดงลาย” หรือ “ปูใบ้เกล็ด” (Mosaic reef crab) หรือ “Lophozozymus pictor” ซึ่งเป็นปูที่มีพิษอันตราย สะสมมาจากอาหารที่ปูกินเข้าไป และพิษนี้ ก็ไม่สลายต่อให้ปรุงผ่านความร้อน

สำหรับปูใบ้เกล็ดมีทั้งชนิดที่กินได้และชนิดที่มีพิษ ห้ามกินแบบตัวอย่างในรูปภาพ
ปูสวยๆ ตัวนี้มีชื่อว่า “Mosaic reef crab” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lophozozymus pictor อยู่ในวงศ์ Xanthidae (พวกปูใบ้) มักพบตามแนวปะการังใกล้ชายฝั่ง ขนาดตัวประมาณ 8-10 เซนติเมตร ส่วนมากมีสีแดงถึงส้มพร้อมลวดลายจุดสีขาวคล้ายกระเบื้องโมเสกบนกระดอง มีก้ามสั้นที่มีปลายสีดำ ปัจจุบันถือว่าเป็นปูชนิดที่หาได้ค่อนข้างยาก
ปกติเวลาคิดถึงสัตว์ทะเลที่มีพิษก็มักจะคิดถึง “ปลาปักเป้า” หรือ “แมงดาไฟ” แต่ก็มีปูอยู่หลายชนิดที่มีพิษสะสมในตัวและทำให้ถึงแก่ความตายได้ถ้ากินเข้าไป โดยปูพิษที่ว่านั้น มักจะเป็นปูในวงศ์ปูใบ้ เช่น
- ปูใบ้แดง (Artergatis intergerrimus)
- ปูใบ้ลาย (Lophozozymus pictor)
- ปูตาเกียง (Eriphia smithi)
- ปูใบ้ตาแดง (Eriphia sebana)
ขณะที่ปูใบ้อีกหลายชนิดสามารถนำมากินได้โดยไม่มีพิษ (จึงทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ถ้าเลือกกินผิดชนิด)
ปูใบ้ชนิดที่มีพิษนั้นมีทั้งพิษที่เกิดจากสารกลุ่มนิวโรท็อกซิน ที่ทำลายประสาท เช่น สาร ซาซิทอกซิน (saxitoxin) โดยปูใบ้ได้กินแพลงค์ตอนพิษกลุ่มไดโนแฟลกเจเลทเข้าไป และสะสมพิษเหล่านี้ไว้ในตัว รวมทั้งมีพิษกลุ่มเตโตรโดท็อกซิน ชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า โดยอาจจะสร้างจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของปูใบ้
สารพิษพวกนี้ ส่วนใหญ่จะทนความร้อนสูง ดังนั้น ถึงนำไปประกอบอาหารด้วยการนึ่ง อบ หรือปิ้งย่าง ก็ไม่สามารถทำลายพิษลงได้ ถ้าได้รับเข้าไป อาจจะเกิดอาการบวมที่ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ และใบหน้า ถ่ายท้อง ปวดท้อง และช็อค รวมถึงเป็นอัมพาต และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ดังนั้น แม้แต่อาหารที่ดูธรรมดาๆ มาก อย่าง “ปู” อ.เจษฎ์ ยังเน้นย้ำ ! ต้องเลือกกินให้ถูกต้องและไม่เอาชนิดที่มีพิษมารับประทานเด็ดขาด

ย้อนดูอุทาหรณ์จากไต้หวัน เมื่อมื้อค่ำเกือบกลายเป็นมื้อสุดท้าย
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อนจากชายคนหนึ่งในไต้หวัน ซึ่งเจ้าตัวเองนั้นเกือบจะเปลี่ยนอาหารค่ำมื้อพิเศษของครอบครัวให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่ได้ไปซื้อปู 2 ตัว มาจากตลาดปลา แต่เมื่อกลับถึงบ้านสัญชาตญาณก็บอกเขาว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ปูตัวหนึ่งมีลวดลายบนกระดองที่งดงามราวกับกระเบื้องโมเสก แต่อีกตัวกลับมีปลายก้ามทั้งสองข้างเป็น สีดำสนิท อย่างน่าประหลาดใจ ด้วยความไม่แน่ใจ เขาจึงตัดสินใจส่งรูปไปถามเพื่อนผู้เชี่ยวชาญ และนั่นคือการตัดสินใจที่ช่วยชีวิตเขาและครอบครัวเอาไว้ เพราะคำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ปูที่เขาซื้อมานั้น คือสองนักฆ่าแห่งท้องทะเลที่อันตรายที่สุด

ทำความรู้จัก “นักฆ่าแห่งท้องทะเล” ปู 2 สายพันธุ์ที่ว่านี้ คือ
ปูใบ้แดง (Red Egg Crab) แม้จะมีสีสันสวยงาม แต่จุดสังเกตที่อันตรายที่สุดคือ ปลายก้ามสีดำ อันเป็นเอกลักษณ์
ปูใบ้ลายกระเบื้อง (Mosaic Reef Crab) ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ปูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในภูมิภาค” มีชื่อเสียงฉาวโฉ่จากการคร่าชีวิตผู้คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มาแล้วหลายราย
ความน่าสะพรึงกลัวของปูเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเอง แต่มาจาก “อาหาร” ที่พวกมันกินเข้าไป จากรายงานของ Wild Singapore ปูใบ้ลายกระเบื้องมักจะกินปลิงทะเลมีพิษเป็นอาหาร และได้สะสมพิษร้ายแรงนั้นไว้ในเนื้อและกระดองของมันเอง
และนี่คือความจริงที่น่ากลัวที่สุด: สารพิษเหล่านี้มีความเสถียรต่อความร้อนสูงมาก นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะนำมันไปผ่านกระบวนการปรุงสุกด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้งต้ม, นึ่ง, ย่าง หรือทอด พิษก็ยังคงอยู่ไม่สลายไปไหน
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญย้ำเตือนว่า พิษจากปูเพียงตัวเดียวมีความรุนแรงมากพอที่จะสังหารผู้ใหญ่ได้หลายสิบคนเลยทีเดียวด้วย.
ข้อมูลจาก wildsingapore.com, chinapress, worldofbuzz
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักเรียนอินโดฯ เกือบ 1,000 คน ป่วยอาหารเป็นพิษ เหตุทำตั้งแต่เช้ามืด เสิร์ฟอีกทีเที่ยงวัน
- แชร์สนั่น ซื้อข้าวปิ้งมากิน เจอก้อนแปลก ๆ นึกว่าจิ้งจก รู้เฉลยแล้วอึ้งกว่าเดิม
- อวสาน จิ่วเจิ้งปู่เซินเจียนเจียวหนัง ถูกเพิกถอนทะเบียน เจอสารอันตราย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: