ข่าวข่าวต่างประเทศ

ช็อก! ฝากเงิน 16 ล้าน ตกบ่ายเกลี้ยงบัญชี แบงก์ดังปัดผิด อ้าง “พนง.ที่ทำลาออกแล้ว”

หนุ่มล้มทั้งยืน ฝากเงิน 16.5 ล้านบาท ตกบ่ายหายเกลี้ยงบัญชี ธนาคารดังปัดรับผิดชอบ อ้าง พนง.ปลอมลายเซ็นเจ้าของบัญชีขนเงิน-แจ้งลาออกแล้ว

เกิดเหตุการณ์สะเทือนความเชื่อมั่นวงการสถาบันการเงินเป็นอย่างมาก เมื่อมีรายงานว่าที่เมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ชายรายหนึ่งต้องเผชิญกับฝันร้าย หลังจากเงินก้อนโตที่เขาได้รับเป็นค่าชดเชยจากการถูกรื้อถอนที่ดินมูลค่า 3.3 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทยประมาณกว่า 16.5 ล้านบาท) หายเกลี้ยงจากบัญชี ทั้งที่เพิ่งนำไปฝากไว้กับธนาคารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในพื้นที่ได้ยังไม่ทันข้ามวัน

เรื่องราวเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2565 นายหลิวได้รับเงินชดเชยค่ารื้อถอนจำนวนมหาศาล ด้วยความกังวลว่าการเก็บเงินสดจำนวนมากไว้กับตัวจะไม่ปลอดภัย เขาจึงตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปฝากไว้กับธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านนั้น โดยหวังว่าจะปลอดภัยและยังได้รับดอกเบี้ยอีกด้วย

เช้าวันต่อมา นายหลิว จึงได้นำเงินจำนวน 16.5 ล้านบาท ไปดำเนินการฝากเข้าบัญชีธนาคาร โดยมีพนักงานชื่อ “หลี่” เป็นผู้ให้การต้อนรับและดำเนินการทำธุรกรรมให้ตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้น

หลังจากนั้น 1 ปี นายหลิว กลับไปที่ธนาคารแห่งเดิมอีกครั้ง เพื่อขอถอนเงิน แต่กลับได้รับข่าวช็อกเมื่อพนักงานธนาคารแจ้งว่า “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของเขาไม่เหลือเงินอยู่เลยแม้แต่บาทเดียว” และเมื่อลองตรวจสอบข้อมูลการถอนเงินย้อนหลังปรากฎว่า “เงินทั้งหมดถูกถอนออกไปภายในเย็นวันเดียวกันกับที่นายหลิวนำเงินมาฝาก”

นายหลิวได้เรียกร้องให้ธนาคารชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนของสาเหตุที่เงินจำนวนมหาศาลหายไปในพริบตา ทั้งที่ฝากยังไม่ทันข้ามวัน เมื่อผลสอบสวนภายในของธนาคารดังกล่าวออก จึงพบว่า พนักงานที่ชื่อ “หลี่” ได้แอบ ปลอมลายมือชื่อของนายหลิว และทำการโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนจะแจ้งลาออกในทันที

ส่วนทางธนาคารกลับพยายาม ปัดความรับผิดชอบ โดยอ้างว่า พนักงานคนนั้นไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว และความผิดก็ไม่ใช่ของธนาคาร เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ไม่มีการตกหล่นใด ๆ ทั้งสิ้น

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ได้ออกมาวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น กล่าวว่า “ตามประมวลกฎหมายแพ่งของจีน ธนาคารในฐานะสถาบันการเงิน มีหน้าที่ต้องรับประกันความปลอดภัยของเงินฝากลูกค้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 577 ของประมวลกฎหมายแพ่งจีน ระบุชัดเจนว่า: เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อผูกพันตามสัญญา ฝ่ายนั้นจะต้องรับผิดชอบตามสมควร ซึ่งอาจรวมถึงการต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันต่อไป, การแก้ไขการละเมิด หรือการชดใช้ค่าเสียหาย

ในกรณีนี้ เงินของนายหลิวถูกถอนออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต นั่นหมายความว่าธนาคารไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ในสัญญาเงินฝาก จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย ไม่เพียงแต่การละเมิดสัญญาเท่านั้น การกระทำของพนักงานธนาคารที่ยักยอกทรัพย์สิน ยังนำไปสู่ความรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งของจีนอีกด้วย

กฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า หากพนักงานก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นในระหว่างการปฏิบัติงาน นายจ้าง (ในที่นี้คือธนาคาร) จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย แม้ว่าพนักงานจะอาศัยตำแหน่งหน้าที่ในการกระทำการทุจริต แต่การกระทำนั้นเกิดขึ้นขณะปฏิบัติงานที่ธนาคาร ดังนั้นธนาคารจึงไม่สามารถโยนความผิดทั้งหมดให้เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลได้ หลังจากที่ธนาคารชดใช้ค่าเสียหายให้นายหลิวแล้ว ธนาคารสามารถดำเนินการฟ้องร้องพนักงานแซ่หลี่เป็นรายบุคคลเพื่อเรียกคืนเงินที่สูญเสียไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงจาก : soha.vn

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

GIFT T.

Rewriter สาวจากรั้วสวนดุสิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์งานข่าวมากว่า 5 ปี ชื่นชอบการส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์ หวย และข่าวบันเทิง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้นักอ่านได้เห็นประเด็นรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx