ข่าว

รวบ ‘กะเทยปินส์’ เอี่ยววันกะเทยผ่านศึก เจ้าตัวอ้างไม่ได้ทำร้ายใคร

ตม. รวบ กะเทยปินส์ เอี่ยววันกะเทยผ่านศึก เผยย้ายที่พักไปเรื่อย เจ้าตัวอ้างไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ยอมรับว่าอยู่ในวันเกิดเหตุจริง

จากกรณีข่าวดังเมื่อช่วงต้นเดือน วันกะเทยผ่านศึก หรือกรณีทะเลาะวิวาทระหว่างกะเทยไทย และ กะเทยปินส์ บริเวณซอยสุขุมวิท 11 โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับ แอนนา ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายกะเทยไทยนั้น

Advertisements

ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน ตม.1 ได้สืบสวนร่วมกับ สน.ลุมพินี ลงพื้นที่หาข่าวจนพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมย้ายที่พักไปเรื่อยๆ ไม่เป็นหลักแหล่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยไม่กลับเข้ามาในพื้นที่ถนนสุขุมวิทอีกเลย จนกระทั้งในวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลต่างด้าวลักษณะคล้ายสาวประเภทสองที่เป็นบุคคลตามหมายจับ

โดยบุคคลดังกล่าวมาเตร็ดเตร่และพักอาศัยอยู่ในบริเวณย่านถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกระจายกำลังโดยรอบถนนเพชรบุรี ซอย 15 และ 17 กระทั่งพบอยู่ที่โฮเตลแห่งหนึ่ง ย่านประตูน้ำ เขตราชเทวี เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัว

จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า เดินทางเข้ามาทางด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยการอนุญาตยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากเจ้าตัวได้ไปยื่นคำร้องขออยู่ในไทย ก่อนจะถูกออกหมายจับ เบื้องต้น แอนนา ให้การภาคเสธ อ้างว่า อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร จึงนำตัวส่ง สน.ลุมพินี ดำเนินคดี

ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทย และชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุข และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทย และสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย

Advertisements

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button