ร.ต.ต. ปัดขายยาข้างโรงพัก ด้าน ผกก. งัดหลักฐานโต้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
ร.ต.ต. ปัดขายยาข้างโรงพัก สภ.หนองปลิง เล่าว่าตอนจับไม่เจอยาบ้าที่ตัว ไม่รู้ยาบ้าที่ยึดได้มาจากไหน ด้าน ผกก. งัดหลักฐานโต้ ลั่นไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
จากกรณีกระแสข่าวดังที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี รอง สวป.สภ.หนองปลิง หลังจากที่ทำการล่อซื้อยาเสพติด ข้างโรงพักหนองปลิง จนกลายเป็นข่าวดังตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อส่วนกลางว่าตนเองโดนวางงานและค้นห้องพักจนได้ยามาทั้งสิ้น 333 เม็ด และอ้างว่าที่ตนเองไม่มียาเสพติดและไม่มีการล่อซื้อตามที่เป็นข่าว ส่วนเงินล่อซื้อที่เจอที่ตัวอ้างว่า นายบอย ซึ่งเป็นสายลับ นำเงินมาใช้หนี้ตนเอง และมีเบอร์แบ็งค์ตามที่ชุดจับกุมได้อ้างไว้
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดยังคงใส่เครื่องแบบมาทำงานตามปกติ แต่อยู่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรหน้าห้องขังเพียงเท่านั้น เพื่อสอบถามถึงปรัะเด็นดังกล่าว
ยืนยันว่าเรื่องที่ตนค้ายานั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะตอนจับก็ไม่พบยาบ้าที่ตัว และตอนไปค้นที่ห้องพักเขาก็ไม่มีการนำตนเข้าไปร่วมตรวจค้นด้วย จึงไม่รู้ว่ายาบ้าที่เขายึดแล้วอ้างว่าเป็นของตนนั้นเขาเอามาจากไหน มันไม่ใช่ของตน ของกลางที่เขาค้นเจอในตัวก็มีแค่เงิน 1,000 บาทที่ได้จากการใช้หนี้เท่านั้น ไม่เจอยาบ้าที่ตัวของตนสักเม็ด
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดมาก ตอนนี้แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมเลย เพราะนอกจากจะถูกกล่าวหาว่าค้ายาแล้ว ยังต้องถูกยึดอาวุธปืน และรถยนต์ที่ต้องใช้ทำงานทุกวันด้วย และตั้งแต่วันที่ถูกจับก็แทบจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง
เมื่อถามถึงเรื่องการตรวจปัสสาวะเจอว่ามีการเสพสารเสพติด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ก็ยังยืนยันว่าฉี่นั้นไม่ได้เป็นของตน และไม่รู้ว่าเขาไปเอาของใครมา แต่ยอมรับว่าในอดีตเคยมีประวัติซื้อยามาเสพตั้งแต่สมัยปี 2540 แต่ก็ได้เลิกไปนานแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนถูกจับกุมค้ายา ตนเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งก็อาจจะมีตำรวจบางนายไม่ค่อยชอบขี้หน้าตน และตนมองว่าเล่นกันครั้งนี้มันรุนแรงแทบฆ่ากันตายทั้งเป็นเลยทีเดียว จึงต้องประกันตัวออกมาสู้คดีก่อนจะมาเผยต่อสื่อเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้ถูกกลั่นแกล้ง ร.ต.ต.สุทธิรัตน์กลับบอกว่านึกไม่ออก จึงถามต่อว่าเคยไปทำคดีจับใคร หรือไปปฏิบัติหน้าที่เกินหน้าเกินตาหรือไม่ เจ้าตัวบอกเพียงแค่ว่าไม่รู้ ส่วนเรื่องคลิปที่ปรากฏว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ยกมือไหว้ผู้บังคับบัญชาเพื่อขอให้ช่วยนั้น ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ระบุว่า ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกจริงๆ เพราะสถานการณ์มันกดดัน และตนหลวมตัวตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว จากนั้นเจ้าตัวก็รีบขอตัวออกเวรไปจากโรงพักทันที
ขณะที่ ชุดจับกุม ได้งัดคลิปหลักฐานกระบวนการล่อซื้อ โดยคลิปแรกเป็นคลิปช่วงที่นกต่อโทรศัพท์ไปหา ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ และนัดซื้อขายยาเสพติดกัน
คลิปที่ 2 เป็นคลิปช่วงที่นกต่อ ไปซื้อขายยาบ้ากับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ที่โต๊ะหินอ่อนข้าง สภ.หนองปลิง หลังจากส่งของกันเสร็จ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้เดินเข้าโรงพักไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนถูกบุกจับ โดยชุดสืบสวนสามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด
พ.ต.อ วิริยะบัณฑิตย์ สถิตย์สุุชาติ ผกก.สภ.หนองปลิง ก็ได้รับการยืนยันว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์มีพฤติกรรมค้ายาบ้าจริง เนื่องจากก่อนจะมีการจับกุมทางตำรวจได้จับกุมนักค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่หลายราย ต่างก็มีการซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ จึงเป็นที่มาของการสืบสวนขยายผล กระทั่งมีการวางแผนและล่อซื้อจับกุม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้งตามที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้กล่าวอ้าง และการจับกุมในวันนั้นทางตำรวจก็มีหลักฐานคลิปภาพตั้งแต่ต้นจนจบทั้งหมด ยืนยันว่าทำตามหลักกฎหมายหมดทุกอย่าง ไม่มีการกลั่นแกล้ง
ส่วนเรื่องที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ยังคงมาทำงานปฏิบัติหน้าที่ตามปกตินั้น เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการรออนุมัติให้เจ้าตัวออกจากราชการ ประกอบกับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ได้ประกันตัวออกมาสู้คดีด้วย จึงทำให้เขายังคงมาทำงานได้ตามปกติ แต่ตนก็ได้สั่งการให้ไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาหน้าห้องขังเท่านั้น และเจ้าตัวไม่มีการพกอาวุธปืนมาทำงานแต่อย่างใด เนื่องจากในวันจับกุมได้มีการยึดอาวุธ และรถยนต์ของเจ้าตัวไว้ตรวจสอบเป็นหลักฐานในคดี
พีคไม่หยุด ตำรวจล่อซื้อยาบ้า ข้างโรงพัก เจอคนมาส่งเป็นตำรวจทำงานที่เดียวกัน