ข่าวข่าวต่างประเทศ

จีนชี้เป้า WHO สำรวจต้นตอโควิด ที่สหรัฐฯ

ทางการจีนออกมาแนะนำองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ให้ สำรวจต้นตอโควิด ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมสหรัฐฯมีห้องทดลองหลายแห่ง

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CNN รายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนได้ออกมาพูดถึงภารกิจขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่เดินทางมายังเมืองอู่ฮั่น อดีตศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด เพื่อสำรวจหาต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

Advertisements

โดยทางการจีนหวังว่าทางการสหรัฐฯจะปฏิบัติตามพวกเขา ด้วยการเชิญให้ผู้เชี่ยวชาญของ WHO เดินทางไปสำรวจต้นตอของเชื้อไวรัส เช่นเดียวกันกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในประเทศจีนที่แสดงความเห็นไปเชิงเดียวกันว่า ณ วินาทีนี้สหรัฐฯควรจะเป็นศูนย์กลางการตรวจสอบต้นของไวรัส

ในช่วงตลอดปีที่ผ่านมาทางการจีนพยายามผลักดันแนวคิดว่าเชื้อไวรัสไม่ได้มาจากจีน แต่มาจากที่สหรัฐฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีน ได้เคยให้สัมภาษณ์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาและตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดสหรัฐฯจึงมีห้องทดลองเป็นจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯมีความโปร่งใสและชัดเจนเกี่ยวกับจุดประสงค์ห้องทดลองต่างๆมากกว่านี้

ทั้งนี้ในแนวคิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่จีนแต่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากที่สหรัฐฯก็คิดแบบเดียวกัน และมีประชาชนและนักการเมืองจำนวนหนึ่งเชื่อว่า เชื้อไวรัสถูกสร้างขึ้นที่ห้องทดลองจีน

ก่อนหน้านี้ นาย ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค หัวหน้าทีมสืบสวนหาต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ออกมาแถลงถึงผลการสำรวจว่า ความเป็นไปได้ที่โควิดจะหลุดออกมาจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่น ถือว่าต่ำมาก

ผู้นำทีมสำรวจกล่าวว่าต้นตอของเชื้อไวรัสน่าจะมาจากโรคตามธรรมชาติของค้างคาว แต่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในอู่ฮั่น ซึ่งเขาเชื่อว่าเส้นทางการแพร่ระบาดน่าจะมาจาก ค้างคาว ไปยังสัตว์ชนิดอื่น และมนุษย์อีกทีหนึ่ง

Advertisements

โดยในงานแถลงเดียวกัน WHO ยังได้กล่าวอีกว่าพวกเขาอาจจะทำการตรวจสอบทฤษฎีที่เชื่อว่าโควิดอาจจะเกิดขึ้นจากประเทศอื่นและเข้ามาแพร่ระบาดในอู่ฮั่น เนื่องจากการขนส่งอาหารแช่แข็ง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button