‘อ๊อฟฟี่’ เคลียร์ทุกเรื่อง ยันไม่ได้โกงเงินใคร : ข่าวบันเทิง
สำหรับกรณี ‘อ๊อฟฟี่ แม็กซิม’ เน็ตไอดอล ที่ถูกเพื่อนๆ แม้กระทั่ง ‘ขนเพชร’ เน็ตไอดอลที่ทำงานด้วยกันก็ไม่เว้น ออกมาแฉ
-เรื่องเรี่ยไรเงินบริจาคช่วยเหลือน้องวันใหม่ แต่ผ่านไป 7 เดือนกลับเงียบ
-เรื่องเรี่ยไรเงินจากเพื่อน เพื่อจะนำเงินไปซื้อบ้านให้ร่างทรงที่ตนเคารพนับถือ แต่ชื่อบ้านกลับเป็นชื่อของตัวเอง
-เรื่องโกงเงินทำบุญบริจาคงานบวชของขนเพชร และให้เงินค่าตัวของขนเพชร งานละ 5 พัน จากราคาจริง 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคดีด้วยกัน
ล่าสุดอ๊อฟฟี่ก็ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียด พร้อมทนาย ‘นิติธร แก้วโต’ หรือ ‘ทนายเจมส์’ ในรายการ ‘โหนกระแส’ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
เรื่องที่ค้างคาใจหลายๆ คน เงินบริจาคก้อนนั้นที่ต้องไปซื้อเครื่องช่วยหายใจให้น้องวันใหม่ไปไหน
-อ๊อฟฟี่บอกว่าเคยถามคุณแม่น้องวันใหม่ว่าถ้าเกิดเครื่องช่วยหายใจพังขึ้นมา จะเป็นยังไง เขาบอกว่าอันตราย ต้องรีบไปหาหมอ เครื่องช่วยหายใจราคาสูงมาก เป็นหลักล้าน วันที่เขาร้องขอความช่วยเหลือ เงินบริจาคบางส่วนที่ได้จากในคลิป ก็เห็นชัดว่าเป็นบัญชีของเขา ที่ถึงเขาโดยตรง
หลังจากนั้นตนคิดเองว่าจะเก็บเงินช่วยค่าเครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง เพราะในคลิปจะเห็นว่าแม่เขาบอกเครื่องช่วยหายใจแพง ถ้าพังก็จะอันตรายและเสี่ยงมาก แต่ตนชะล่าใจใช้บัญชีของตัวเอง ให้คนบริจาคเข้ามา รวมถึงมีเงินบางส่วนที่ตนไลฟ์สดขายเสื้อผ้า เป็นเงินเก็บ 2.1 แสนบาท แต่ที่ไม่ได้ติดต่อไปเลย 7 เดือน เพราะยังไม่ถึงยอด คิดว่าถ้ายอดครบก็จะโอนให้ แต่ยอดที่บริจาคในเฟสบุ๊กมีประมาณ 3-4 หมื่นบาท เป็นความผิดของตนเอง แต่ก็มีเจตนาที่อยากจะช่วยจริงๆ
กรณีแยกเงินเป็น 2 ครั้ง คือวันที่ไปห้องน้องวันใหม่ และไปถ่ายคลิปให้คนมาบริจาค เงินในบัญชีตรวจสอบได้ไหม
-ตอนแรกเป็นบัญชีแม่เขา ตอนหลังเป็นบัญชีเราเพราะอยากช่วย สามารถตรวจสอบสเตทเมนต์ย้อนหลังได้เลย ว่ามีเงินเข้ามาเท่าไหร่ ถ้าเป็นยอดบริจาคจะเป็นยอดเล็กๆ แต่ถ้ายอด 5 หมื่น ถึงหนึ่งแสนบาทก็เป็นเงินส่วนตัว แต่หลังจากที่ให้คนบริจาคบัญชีนี้ ก็แยกกับบัญชีที่ใช้ทำงานให้ลูกค้าโอนเข้ามา
กรณีนี้เช็คได้ไหม สำหรับเงินที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และเงินที่โอนมาบริจาค
-ทนายเจมส์ตอบว่า ต้องดูก่อนว่าปกติอ๊อฟฟี่ทำอะไร เขาอัดคลิปอะไรจะเป็นยอดใหญ่ จะมีเรตของมันอยู่อย่าง 5 หมื่น, 1 แสน, 2 แสน เป็นเงินค่าจ้าง เป็นปกติของผู้ว่าจ้าง ถ้าบริจาคก้อนใหญ่อย่าง 1 หมื่น ก็อาจจะมี ก็ต้องตรวจสอบก่อน
-อ๊อฟฟี่บอกว่าตรวจสอบสเตทเมนต์แล้วไม่มี วันนี้ไม่ได้เอามา แต่ตรวจสอบได้ ยินดีส่งมาให้ดู และหลังจากนี้จะเอาบัญชีนี้เป็นเงินทำบุญ ให้ลูกค้าโอนเข้าบัญชีบริษัท
เงินที่แม่น้องวันใหม่ไม่เอา ไปบริจาคที่ไหน
-เพื่อความบริสุทธิ์ใจ จึงเอาเงิน 2.1 แสนไปบริจาคที่อื่น ที่ที่น่าสงสารและน่าช่วยเหมือนกัน รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น คิดน้อยไป จริงๆ ควรโอนเงินให้เขาเลย เจตนาอยากสะสมเงินตรงนี้ไปซื้อเครื่องมือให้ หรือเก็บเงินเป็นก้อนแล้วเอาให้เขาทีเดียว ถ้าแม่น้องวันใหม่ให้โอกาส ก็จะมอบเงินส่วนตัวให้อีก 2.1 แสนบาท
-ทนายเจมส์บอกว่าอ๊อฟฟี่มาปรึกษาแล้ว ว่าจะทำยังไงได้บ้าง ก็ได้เอาเงินส่วนนี้ไปบริจาคในสถานที่ที่ต้องการเครื่องมือแพทย์ มีที่มูลนิธิเพชรเกษม หัวหิน ตอนแรกคิดว่าเป็นสถานที่รายได้ดี จึงเช็คจากประธานมูลนิธิ ทราบว่าหัวหินมีสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งอยู่ภูเขา รถที่ม้ชรับคนป่วยออกมา 3 คัน ไม่มีเครื่องตรวจวัดชีพจรเครื่องช่วยหายใจประจำรถ ตนก็มอบให้ทั้งหมด 2.1 แสนบาท
เรื่องซื้อห้องให้พ่อปู่ แล้วเรี่ยไรเงินเพื่อนถึงหลักหมื่น หลักแสน
-เจ้าตัวบอกว่าพ่อปู่เป็นร่างทรง ไม่ได้ไปเรี่ยไรเงินเพื่อน แต่ตั้งใจจะปรับปรุงห้อง และซื้อห้องให้ เพราะพ่อปู่เช่าอยู่ เขาบอกว่ามีปัญหาเรื่องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน อยากให้เขาสบาย อยู่ห้องโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า
ทำไมต้องซื้อให้เขา
-เขาเป็นอาจารย์ เรานับถือเขา อยากให้เขาสบาย เขาสอนให้สวดมนต์ทำบุญ กรวดน้ำให้ถูกวิธี ไม่ใช่ร่างทรง พอเราชีวิตดีขึ้น ก็เลยอยากจะปรับปรุงห้องให้เขาใหม่ จึงทำเรื่องซื้อห้องนั้นเป็นชื่อตัวเองแล้วค่อยทำ พ่อก็อยู่สบายแล้ว แต่ตอนนั้นไม่ทันคิด ดำเนินเรื่องเองหมด
เอาเงินมาจากใครบ้าง
-90 เปอร์เซ็นต์เป็นเงินตน ส่วนกับเพื่อนตอนนั้นชวนให้มาทำบุญ บางคนโอนมา 4 แสน ค่ารีโนเวทเกือบล้าน ก็ทำใหม่หมดเลยทั้งห้อง ห้องนี้หมดไปเกือบล้าน เฉพาะค่าห้อง 4 แสน เงินที่เพื่อนช่วยๆ กันจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ตนออกเองเยอะมาก แค่อยากให้เพื่อนทำบุญร่วมกัน
กว่าจะได้ห้องมาทำธุรกรรมหลายวันมาก ไปดำเนินการกรมที่ดิน ไม่ได้พาพ่อปู่ไปเซ็นเป็นเจ้าของห้อง แต่เป็นชื่อเรา จะได้ปรับปรุงได้เลย
แต่ก็โอนให้เขาแล้วเมื่อ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา
ทำไมเพิ่งโอน เพราะเรื่องแดงหรือเปล่า
-หลายคนอาจคิดแบบนั้นแต่ไม่ใช่แน่นอน เจตนาแค่ให้เขามีที่อยู่โดยไม่ต้องเสียเงิน ลดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าวันนี้เขามาท้วงว่าเอาไปเป็นของตัวเองหรือเปล่า ก็ไม่จำเป็นต้องเอาห้องนั้นเป็นของตัวเอง บ้านก็มีที่กำลังปลูกอยู่ งานก็มี ตั้งใจจะให้เขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าชื่อควรเป็นชื่อเขา
เพื่อนไม่พอใจ
-รู้สึกผิด และอยากขอโทษเพื่อนด้วย ที่ไม่ยอมโอนให้เป็นชื่อพ่อ รู้สึกแค่ว่าตอนนี้พ่อปู่อยู่สบาย ไม่ต้องเช่าแล้ว เข้าใจว่าเพื่อนต้องไม่พอใจ ยอมรับว่าชอบคิดเอง จัดการเอง แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใคร
ภาพจาก: IG@petch.jpg
กรณีโกงเงินบวชของขนเพชร
-ไม่จริงเลย ที่มีคนบอกว่างานบวชฝากซองมา แต่เงินไม่ถึงมือ อ๊อฟฟี่ชี้แจงว่า เงินถูกใส่ย่ามหมดแล้ว มีรูปถ่ายเป็นรูปใส่ย่าม 1 หมื่นบาท มาจากเจ้าของแบรนด์ที่เป็นคนสนิทของตน
ขนเพชรบอกเราจะเอาเงินซอง แต่เราช่วยเขาค่างานบวช 2.5 แสน ตั้งแต่อยู่มา เป็นเจ้าภาพงานบวชเยอะมาก แพงสุดคือแสนกว่าบาท แต่ของขนเพชร เขาแจงรายละเอียดมา ไม่มีใครรู้ แล้วเขาจัดการเองทุกอย่าง แต่เราบอกแล้วว่าจะช่วยเป็นเจ้าภาพ เขากางกระดาษมา 5 แสนเกือบ 6 แสน ตอนแรกช็อก ทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายก็กัดฟันบอกว่าช่วยได้ 2.5 แสน เขาส่งข้อความมาบอกว่าขอบคุณมากนะ
คนชื่อก็อตบอกว่าเคยตบหน้าขนเพชร
-ไม่เคยทำแบบนั้น ส่วนตัวสนิทกับขนเพชรมาก ตั้งแต่เขามาอยู่ มาทำงานเป็นครั้งคราว ก็โยนงานให้แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก หลังจากนั้นเขาก็พูดว่าถูกคู่หูเอาเปรียบ ผู้จัดการโกงเงิน จนเราและคนในทีมสงสาร เลยชวนให้มาอยู่ด้วยกัน เรื่องใช้เขาเช็ดโถส้วม เช็ดรองเท้า ไม่เคยทำถามทีมได้เลย
หลังจากนั้นเป็นข้อตกลงกันว่า คลิปไหนลูกค้าไม่ได้เลือก เราจะแบ่งค่าตัวให้เขา 5 พัน แต่คลิปไหนลูกค้าจ่ายให้ 2 หมื่น เราจะจ่ายให้ 2 หมื่น ที่หายไปรักษาตัว ก็ได้ไปขอสเตทเมนต์ย้อนหลังมา 1 ปีกว่า จะเห็นว่าเราโอนให้เขาเท่าไหร่บ้าง และถ้าจะโกงจริง ตนคงไม่เอาเงินแค่นี้มาแลกกับชื่อเสียง
คลิปที่เรียกค่าตัว 2 หมื่น แต่จ่ายให้ขนเพชร 5 พัน
-ขนเพชรตั้งกรุ๊ปไลน์มาด่าว่าเราโกง ด่าแรงมาก เขาไม่รู้ว่าเราอยู่ในกรุ๊ปนั้นเราก็ให้เขาด่าไปเรื่อยๆ 2 เดือน พอมาสาปแช่งลูกแฟนก็ไม่ยอม ออกมาพูดจนเขากลัว มีการขอขมา
ถ้าสังเกตทั้งแต่งงาน ไปไหนมาไหนเขาจะพูดเสมอว่าทำกับเราไว้เยอะมาก ทำไมยังดี ทำไมยังให้อภัย ถ้าโกงจริงเขาคงไม่ขอขมามา 4 รอบแล้ว เคยลาออกไปแล้วกลับมาขอทำงานใหม่ ก็ให้โอกาส แต่เจ็บสุดคือเขาบอกว่าถ้ามึงออกไปจากกูจะเหยียบให้จมดิน เราไม่เคยพูด ถ้าทำแบบนั้นจริง เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าความลับเขาคืออะไร เราทำได้แต่ก็ไม่ทำ
ถ้าพูดความลับออกไปจะเป็นยังไง
-พังกันไปข้างนึง แต่เราไม่มีเจตนาตรงนั้น เขาขอโทษขอขมาว่าเข้าใจผิด ที่คิดว่าเราไปดีลลูกค้าเรียก 2 หมื่น แต่ละคลิปมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ทั้งค่าโปรดักชั่น ค่าตัดต่อ ค่าออกกอง สถานที่ ยิ่งไปต่างจังหวัดบางทีเข้าเนื้อ แต่เขาก็ได้ 5 พัน
กรณีคนออกมาแฉ มีผลต่อข้อกฎหมายไหม
-ทนายเจมส์บอกว่าการเอาข้อความป็นเท็จใส่ร้ายคนอื่นในโลกโซเชียล เรียกว่าเป็นการหมิ่นประมาทโดยโฆษณา จะเรื่องจริงหรือเท็จก็ดี เข้าข่ายหมิ่นประมาทหมด
เพื่อนที่ออกมาแฉ เซญ่า ชีสเค้ก รวมถึงขนเพชร
-อ๊อฟฟี่กล่าวว่าอยากขอโทษเพื่อนๆ 5-6 คน ไม่เกี่ยวกับขนเพชร ที่ผ่านมาหายไปนอนโรงพยาบาล ผ่าตัดซีสต์ ดูแลรักษาฟันที่เกาหลี ละเลยความรู้สึกเพื่อน ทำให้กลายเป็นคนไม่ดี
แต่จริงๆ คิดแทนคนอื่นเยอะมาก รู้ว่าตัวเองมีข้อเสียคือใจร้อน เอาแต่ใจ
วันนี้อยากขอโทษจากใจจริง และจะไปขอโทษเพื่อนๆ ทุกคนต่อหน้า รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชีวิตหลังจากนั้นแย่มาก ร้องไห้หนักมาก เครียดมาก ถึงขั้นอยากให้เขาให้โอกาสเราปรับปรุงตัว
ที่มาและภาพ: โหนกระแส
- ติดตามเราได้ที่ :