
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เกิดเหตุการณ์น่าตกใจในสหรัฐฯ ไมเคิล ดูอาร์เต (Michael Duarte) เชฟดังในโซเชียลมีเดีย Tiktok ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ขณะเดินทางอยู่กับครอบครัว
ไมเคิล ดูอาร์เต หรือที่รู้จักในชื่อ “FoodWithBearHands” จากคอนเทนต์ทำอาหาร ถูกยิงเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในเมืองคาสโตรวิลล์ รัฐเท็กซัส ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์จากแคลิฟอร์เนียรายนี้กำลังเดินทางท่องเที่ยว
โฆษกสำนักงานนายอำเภอเมดินาเคาน์ตี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ 911 เกี่ยวกับเหตุวุ่นวาย ชายคนหนึ่ง พกมีดและมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้ยิงปืนประจำกาย 2 นัด กระสุนถูกดูอาร์เตจนบาดเจ็บสาหัส แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุ ครอบครัวของดูอาร์เตกล่าวว่า สามี พ่อ พี่ชาย และเพื่อนที่ดีของหลายคนได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุที่เลวร้าย หน้าเพจ GoFundMe ที่เปิดรับบริจาคระบุว่า “การเสียชีวิตของไมเคิล เกิดขึ้นเพียง 3 วัน หลังจากที่เขาและภรรยาเพิ่งฉลองครบรอบแต่งงาน 9 ปี” การจากไปอย่างกะทันหัน ทำให้ เจสสิกา ภรรยาของเขา ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการนำร่างเขากลับแคลิฟอร์เนียและค่าจัดงานศพ เขาจากไปโดยทิ้งภรรยา และ โอคลีย์ ลูกสาววัย 6 ขวบไว้เบื้องหลัง

ดูอาร์เตมีผู้ติดตามรวมกันประมาณ 2 ล้านคน ทั้งใน TikTok, Instagram, Facebook และ YouTube ในประวัติ Instagram ของเขาเขียนไว้ว่า “เป้าหมายของผมคือการแบ่งปันอาหารไปสู่ผู้คนที่ต้องการมันมากที่สุดในโลก”
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ดูอาร์เตเพิ่งโพสต์เล่าเรื่องราวของเขาว่า เติบโตมาโดยไม่มีพ่อจนกระทั่งลุงของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารเม็กซิกันเล็กๆ กลายเป็น “ที่ปรึกษา” และให้งานแรกกับเขาตอนอายุ 14 ปี
เขาเล่าว่าตนเองเป็นเด็กติดแม่ แม่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านมตอนเขาอายุ 21 ปี เขาทำงานในร้านอาหารหลายแห่ง ก่อนจะเข้ารับการบำบัด หลังเผชิญวิกฤตสุขภาพจิต ในช่วงการระบาดของโควิด-19
เมื่อเขากลับมา ได้เริ่มโพสต์วิดีโอทำอาหารในวันหยุด โดยคลิปแรกถ่ายกับลูกสาวของเขา “นั่นคือตอนที่ผมรู้ว่าการสร้างคอนเทนต์ทำให้ผมมีความสุขมากแค่ไหน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สลด! อินฟลูดัง ผัวเก่าหึงโหด บุกยิงกลางห้าง ขณะออกเดต ตร.วิสามัญ ลูก 7 คนกำพร้าพ่อ-แม่
- เมืองเถื่อน นักการเมืองถูกยิงตาย กลางร้านอาหาร ตร.เม็กซิโกทำไรไม่ได้
- “อัจฉริยะ” ลั่นเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ “แตงโม” แม้อาจถูกยิงตาย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





