อาลัยรัก “เกอร์” ทีมงาน อีสานนครศิลป์ ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตระหว่างทัวร์

วงหมอลำชื่อดัง อีสานนครศิลป์ เผยข่าวร้าย ทีมงานประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างเดินทางทัวร์คอนเสิร์ต แฟนเพลงร่วมส่งกำลังใจและร่วมทำบุญช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย
ความเงียบงันและความอาลัยปกคลุมวงการหมอลำ หลังเพจเฟซบุ๊กของ อีสานนครศิลป์ ได้แจ้งข่าวร้ายต่อการจากไปของ นายอนุรักษ์ อาภรศรี (เกอร์) หนึ่งในทีมงานเบื้องหลัง ผู้เป็นที่รักยิ่งของวง เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่ทันตั้งตัวระหว่างการเดินทางไปมอบความสุขให้แฟนเพลงตามตารางทัวร์
แม้จะยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดถึงจุดเกิดเหตุบนเส้นทางสายอีสาน แต่ข่าวการสูญเสียครั้งนี้ได้สร้างความเศร้าสลดอย่างมิอาจบรรยายให้กับหัวเรือใหญ่ของวง เพื่อนร่วมงานบนเวทีและหลังเวที รวมถึงเหล่าแฟนคลับที่ติดตามผลงานมาโดยตลอด

ล่าสุด ทางคณะผู้บริหาร หมอลำอีสานนครศิลป์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความอาลัยและความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของทีมงาน พร้อมทั้งส่งกำลังใจไปยังครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต โดยระบุข้อความว่า “ทีมผู้บริหารหมอลำอีสานนครศิลป์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียและขอส่งกำลังใจให้ครอบครัวและทีมงานทุกคนครับ”

สำหรับแฟนเพลงและผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการร่วมแสดงความเสียใจและให้กำลังใจแก่ครอบครัวของ นายอนุรักษ์ อาภรศรี (เกอร์) หนึ่งในทีมงานผู้จากไป

สามารถร่วมทำบุญได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 0372964367 ในชื่อบัญชี นายภูเบศร์ นิลาทะวงศ์ (หมอกี้) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแสดงความรักและความห่วงใยต่อผู้สูญเสียและครอบครัวในยามยากลำบากนี้

นอกจากนี้ ทางเฟซบุ๊ก เพจ หมอลำอีสานนครศลิป์ ยังได้เผยคลิป กิจกรรมทำบุญให้กับ พี่เกอร์ ทีมงานผู้เสียชีวิต โดยระบุข้อความว่า “ขอให้พี่เกอร์สู่สรวงสวรรค์เด้อ #อีสานนครศิลป์ #ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ #บอสโน๊ต #เฮียหน่อย”

ประวัติ อีสานนครศิลป์ คลื่นลูกใหม่แห่งวงการหมอลำ
หมอลำ ศิลปะการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่น สะท้อนเรื่องราววิถีชีวิต ประเพณี และจิตวิญญาณของผู้คนในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย วงหมอลำ “อีสานนครศิลป์” ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มที่น่าจับตามอง
ด้วยแนวทางการแสดงที่สดใหม่และเต็มไปด้วยพลัง สร้างความประทับใจให้กับทั้งผู้ที่คุ้นเคยกับหมอลำมานานและผู้ชมรุ่นใหม่ การผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความร่วมสมัยในการแสดงของพวกเขา ได้ส่งผลให้วงอีสานนครศิลป์กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่โดดเด่นในวงการหมอลำปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของอีสานนครศิลป์
วงอีสานนครศิลป์ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2565 จากการรวมตัวของสองผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ คือ สุชาติ อินทร์พรหม (เฮียหน่อย) และ มานิต โทแสง (บอสโน๊ต) เฮียหน่อย สุชาติ อินทร์พรหม มีพื้นเพมาจากกรุงเทพมหานคร และเดิมทำธุรกิจด้านการ์เม้นท์ แต่ด้วยความหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของหมอลำ
ทำให้เขาก้าวเข้าสู่วงการศิลปะการแสดงพื้นบ้านนี้ ก่อนที่จะร่วมก่อตั้งอีสานนครศิลป์ เฮียหน่อยเคยมีประสบการณ์ในการบริหารวงหมอลำชื่อดังอย่าง เสียงอีสาน ร่วมกับ แม่นกน้อย อุไรพร เป็นระยะเวลาสองปี . ประสบการณ์ครั้งนั้นได้จุดประกายความรักและความเข้าใจในวัฒนธรรมอีสานให้แก่เขาอย่างลึกซึ้ง ทำให้เขาเล็งเห็นถึงศักยภาพของหมอลำที่ไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิง แต่ยังสามารถสร้างความสุข สร้างอาชีพ และสืบสานวัฒนธรรมได้อีกด้วย
แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ เฮียหน่อย สุชาติ อินทร์พรหม จากคนเมืองกรุงก้าวเข้ามาเป็นผู้บริหารวงหมอลำอีสานนครศิลป์อย่างเต็มตัวนั้น มาจากความประทับใจในศิลปะหมอลำที่เขาได้รับจากการบริหารวงเสียงอีสาน . เขาได้เห็นถึงพลังของหมอลำในการสร้างความสุข การสืบสานวัฒนธรรม และการสร้างอาชีพให้กับผู้คนจำนวนมาก . เฮียหน่อยมองว่าหมอลำเป็นมากกว่าแค่การแสดง
แต่เป็น “soft power” และเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในการเผยแพร่ไปสู่ระดับชาติและนานาชาติได้ เขายังให้ความสำคัญกับการปรับตัวของหมอลำให้เข้ากับยุคสมัย โดยเชื่อว่าการนำเสนอในรูปแบบใหม่ ๆ จะสามารถดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ได้ ความปรารถนาของเฮียหน่อยคือการสร้างโอกาสให้เยาวชนอีสานได้มีงานทำในแวดวงศิลปะการแสดง โดยไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด
คลื่นลูกใหม่แห่งวงการหมอลำ
อีสานนครศิลป์ได้รับการขนานนามว่าเป็นวงหมอลำ “คลื่นลูกใหม่” หรือ “คนรุ่นใหม่” ในวงการ พวกเขามุ่งมั่นที่จะนำเสนอมิติใหม่ของหมอลำให้กับคนรุ่นปัจจุบัน รูปแบบการแสดงของวงอีสานนครศิลป์มักจะโดดเด่นด้วยเวที แสง สี เสียง ที่อลังการ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมทั้งในด้านภาพและเสียง วงได้ผสมผสานหมอลำแบบดั้งเดิมเข้ากับดนตรีและสไตล์การแสดงที่ทันสมัย
นอกจากนี้ ในการแสดงของพวกเขายังมีการนำเสนอศิลปะและประเพณีของจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานอีกด้วย การที่วงใช้ชื่อ “อีสานนิวเจน” แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะดึงดูดผู้ชมกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อาจไม่ได้คุ้นเคยกับหมอลำแบบดั้งเดิมมากนัก
การให้ความสำคัญกับการผลิตเวทีคุณภาพสูงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยังบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์การชมหมอลำให้สามารถแข่งขันกับความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ ในปัจจุบันได้
บุคคลสำคัญและศิลปิน
วงอีสานนครศิลป์มีศิลปินและนักแสดงที่มีความสามารถมากมาย ทั้งศิลปินที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและดาวรุ่งพุ่งแรง หนึ่งในศิลปินที่โดดเด่นคือ แม่เป้า รัศมี มณีนพ นักร้องหมอลำระดับตำนาน ที่ได้กลับคืนสู่เวทีอีกครั้งกับวงอีสานนครศิลป์ และยังเป็นครูผู้ฝึกสอนให้กับศิลปินรุ่นน้องในวงอีกด้วย
วงยังเปิดโอกาสและให้การสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ ที่มีความรักและความมุ่งมั่นในศิลปะหมอลำ พวกเขามองหาศิลปินที่มีทักษะหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการร้อง การเต้น และการแสดง นอกจากนี้ วงยังได้สร้างคู่จิ้นดาวรุ่งอย่าง นนท์-จุ๊ย
เพื่อสร้างความบันเทิงและดึงดูดผู้ชม ศิลปินที่น่าจับตามองอื่นๆ ในวงอีสานนครศิลป์ ได้แก่ นุกเกอร์-กฤษกร บุญมา (พระเอก), อาย-ปาลิตา เชื้อสาวะถี (นางเอก), ตาอี๋-สาธิต สายสิงห์, จุ๊ย-นิธิชัย รื้อเรือง, นนท์-อดิรุจ ประสพดี, เจมส์ ยอดไผ่, ดาหลา ธัญญาพร และ เนตรนภา พญาแล การมีศิลปินอาวุโสอย่าง แม่เป้า รัศมี มณีนพ มาร่วมงาน ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและเชื่อมโยงวงกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมอลำ
ในขณะที่การให้ความสำคัญกับศิลปินรุ่นใหม่ ก็เป็นการสร้างความมั่นใจในอนาคตของศิลปะแขนงนี้ การเน้นย้ำถึงทักษะที่หลากหลายของศิลปิน แสดงให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาบุคลากรที่ทันสมัย ซึ่งตระหนักถึงความจำเป็นของนักแสดงที่สามารถสร้างความบันเทิงและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ในหลากหลายรูปแบบ
การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมอีสาน
พันธกิจหลักของวงอีสานนครศิลป์คือการอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาศิลปะหมอลำ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน พวกเขามุ่งมั่นที่จะนำเสนอความงดงามและความเป็นเลิศของดนตรีและการแสดงหมอลำแบบดั้งเดิม
เฮียหน่อยเชื่อว่าหมอลำเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์อีสาน และเป็นสิ่งที่ชาวอีสานควรภาคภูมิใจ วงพยายามที่จะนำเสนอแก่นแท้ของวัฒนธรรมอีสานในการแสดงของพวกเขา พวกเขามองว่าหมอลำเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงผู้คนกับรากเหง้าของความเป็นอีสาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในถิ่นอื่น หมอลำเป็นสิ่งที่สามารถนำความสุขและความสบายใจมาสู่ชาวอีสานได้ในทุกสถานการณ์ ความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอีสาน แสดงให้เห็นถึงบทบาทของวงในฐานะทูตทางวัฒนธรรม ที่ช่วยให้ศิลปะแบบดั้งเดิมยังคงมีชีวิตชีวาและมีความหมายในสังคมร่วมสมัย
การให้ความสำคัญกับบทบาทของหมอลำในฐานะ “soft power” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของวงในการยกระดับสถานะของหมอลำให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง