ดูท่าจะจบไม่สวย เมื่อมีการยืนยันว่า ฮอนด้า และ นิสสัน ได้ยุติการควบรวมกิจการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ร่วมมือกันพัฒนารถ EV ต่อไป
เมื่อวานนี้ (13 กุมภาพันธ์) นิสสัน และ ฮอนด้า 2 บริษัทยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้ยุติการเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการ มูลค่ามากกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.02 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้ นิสสัน ต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน พร้อมกับตอกย้ำถึงแรงกดดันที่พวกเขาเจอจากการมาของผู้ผลิตจากจีน
การเจรจาดังกล่าวของทั้ง ฮอนด้า กับ นิสสัน ที่ถือว่าเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ของวงการมีกันมาตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2024 แต่สุดท้ายก็เกิดความตึงเครียดระหว่างการเจรจา รวมไปถึงความขัดแย้งในเรื่องของการถ่วงดุล เพราะมีแหล่งข่าวอ้างว่า ฮอนด้า ต้องการให้ นิสสัน เข้ามาเป็นบริษัทลูก และคาดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้การเจรจาในครั้งนี้ล่มไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทระบุว่าจะยังคงดำเนินการตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการร่วมมือด้านเทคโนโลยีและด้านอื่นๆ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทยังเกิดขึ้นในการมุ่งหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพราะในตอนนี้ BYD (บีวายดี) และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรายอื่นๆ กำลังเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดด้วยรถยนต์ที่ทันสมัยกว่าและมาพร้อมซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย
ผลการยุติการควบรวมกิจการทำให้ทั้งสองบริษัทต้องทบทวนกลุยทธ์ของตนเอง เพราะเดิมทีพวกเขาต้องการพัฒนารถ EV และซอฟต์แวร์ผ่านการขยายขนาด และลดต้นทุนผ่านการทำงานร่วมกัน
แน่นอนว่าฝ่ายที่ดูจะสั่นคลอนมากกว่าจะเป็น นิสสัน ที่ช่วงหลังผลงานถดถอย และกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรระดับผู้บริหาร รวมไปถึงประเด็นสำคัญคือการที่พวกเขาสามารถดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปรับปรุงผลกำไรได้หรือไม่
ขณะที่ทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็จะยุติบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการหารือดังกล่าว หลังจากที่การเจรจาทั้งสองบริษัทยุติลง
อ้างอิง : www.reuters.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
