ประวัติ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” จากพระเอกนักบู๊ สู่จิตอาสาช่วยน้ำท่วม

somkiarเผยแพร่: 13 ก.ย. 2567 14:52 น.| อัปเดต: 13 ก.ย. 2567 14:52 น.

จากนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์สู่นักสังคมสงเคราะห์

เปิดประวัติ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบู๊มากฝีมือผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิง สู่ฮีโร่นักจิตอาสาที่ออกช่วยเหลือทุกวิกฤติที่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน โดยเฉพาะการลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือในเหตุการณ์มหาอุทกภัย บริเวณภาคเหนือ

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบู๊ระดับตำนานผู้เคยมีผลงานมากมายในวงการบันเทิง ที่ปัจจุบันผันตัวมาทำหน้าที่กู้ภัยจิตอาสาไม่ว่าวิกฤติไหนเกิดขึ้นตั้งแต่ น้ำท่วม หรือ โรคระบาด เรามักจะได้เห็นเขาออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเสมอ บทความนี้เราจะพาไปรู้จักฮีโร่ในชีวิตจากเส้นทางนักแสดงสู่บทบาทอาสาสมัครกู้ภัย

ชีวิตและการศึกษา

มีชื่อเล่นว่า ท็อป เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ที่อำเภอสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบัน คือ จังหวัดสระแก้ว) เป็นบุตรของนายชูชาติ กับนางปรางทิพย์ บรรลือฤทธิ์ บิณฑ์ มีน้องชายฝาแฝดซึ่งเป็นนักแสดงด้วยเหมือนกัน คือ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิทยาการการจัดการจาก มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี และปริญญาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

เส้นทางในวงการบันเทิง

เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบและแสดงเป็นตัวประกอบ ก่อนจะมารับบทนำจากการแนะนำของ คมน์ อรรฆเดช ในเรื่อง “ตำรวจเหล็ก” คู่กับ มาช่า วัฒนพานิช ซึ่งเป็นนักแสดงใหม่ด้วยกันทั้งคู่ และมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากละครโทรทัศน์ เรื่อง “แผลเก่า” ทางช่อง 7 เมื่อปีพ.ศ. 2531 โดยรับบทเป็น “ไอ้ขวัญ” แสดงคู่กับชุติมา นัยนา จากนั้นจึงมีผลงานที่เป็นที่รู้จักอีกคือเรื่อง “เหตุเกิดที่ สน.” เมื่อ พ.ศ. 2533 โดยรับบทเป็น หมวดปลิว นายตำรวจประจำ สน.

ผลงานเด่น ๆ ทางภาพยนตร์ได้แก่ บางระจัน เมื่อปีพ.ศ. 2544 รับบทเป็น “อ้ายทองเหม็น” ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย และยังมีผลงานกำกับการแสดงจากเรื่อง ตำนานกระสือ ใน พ.ศ. 2545, ช้างเพื่อนแก้ว ในปีพ.ศ. 2546, เดอะโกร๋น ก๊วนกวนผี ในปีพ.ศ. 2547 และปัญญา เรณู ในปีพ.ศ. 2554 นอกจากนี้ยังเคยรับบทเป็นพระราชาอินเดียในภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยคืออเล็กซานเดอร์ มหาราชชาตินักรบ ส่วนผลงานละครโทรทัศน์ในระยะหลัง ๆ มีเพียงเรื่องรุกฆาต ทางช่อง 7 เมื่อปีพ.ศ. 2552 ในฐานะดารารับเชิญ

ผลงานเด่น ๆ ทางภาพยนตร์ได้แก่ บางระจัน เมื่อปีพ.ศ. 2544 รับบทเป็น "อ้ายทองเหม็น" ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย

ด้านงานการแสดงนั้น เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบุคคลที่เลือกรับบท โดยจะรับบทเฉพาะดี ๆ แตกต่างจากเอกพันธ์น้องชาย เนื่องจากเคยเป็นพระเอกมาก่อน และเคยได้รับรางวัลนักแสดงนำชายมาแล้วถึง 5 รางวัลด้วยกัน

จากพระเอกนักบู๊สู่งานจิตอาสา

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นอาสาสมัครในมูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นเวลากว่า 30 ปี จากความคิดอยากช่วยคนตั้งแต่เด็ก ไม่ได้คิดว่าต้องมาเก็บศพ โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยเหลือคนจนและชาวบ้านโดยตรง จากการเป็นเด็กต่างจังหวัดละแต่ละปีจะได้รับการช่วยเหลือ ทั้งเรื่องอุปกรณ์การเรียนและเสื้อผ้าใหม่ๆ เมื่อโตขึ้นก็เลยคิดว่าอยากตอบแทนในสิ่งที่ตนเคยได้รับ

กระทั่งมีเหตุการณ์ตึกถล่มหน้าโรงหนังเอเธนส์ ในปี พ.ศ.ปี 2533 ในวันนั้นเขาได้เข้ามาทำงานร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูเต็มตัว ครั้งนั้นได้เห็นภาพข่าวจากรายการทีวีต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนทั้งเรื่องอุปกรณ์และคน เพราะมีคนติดอยู่ด้านในกว่า 10 ราย จึงรีบเดินทางไปที่นั่น เมื่อมาถึงอาสาสมัครของมูลนิธิทั้งสองกำลังช่วยกันขุด เพื่อช่วยคน ก็เลยเดินเข้าไปขอเครื่องมือมาช่วยขุดหาคนเจ็บและผู้เสียชีวิต ขุดตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืน จนเจอผู้ได้รับบาดเจ็บคนแรก ตั้งแต่นั้นมาทางมูลนิธิร่วมกตัญญูก็เอาชุดมาให้ใส่

ณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นอาสาสมัครในมูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นเวลากว่า 30 ปี จากความคิดอยากช่วยคนตั้งแต่เด็ก ไม่ได้คิดว่าต้องมาเก็บศพ โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยเหลือคนจนและชาวบ้านโดยตรง — ภาพจาก : Facebook บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

ช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 เขากลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเขาได้เปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนกระทั่งมียอดบริจาคทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 400 กว่าล้านบาท

ภารกิจที่น่าจดจำอีกงานคือ การช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง ช่วงปี พ.ศ. 2561 และช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งได้นำเงินส่วนตัวและเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ ที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ จำนวน 5 ล้านบาท มาแจกให้กับคนหาเช้ากินค่ำที่ตอนนี้ขาดรายได้ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัย และมอบเงินครอบครัวละ 500 บาท เพื่อช่วยเยียวยาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น