เรื่องนี้ใครผิด หญิงนอนอัมพาต 20 ปี อ้างถูกพี่ชายกระทำวัยเด็ก หมอไขปมเป็นเพราะพ่อแม่
เด็กสาวแกล้งป่วยอัมพาตมานานเกือบ 20 ปี อ้างปมถูกพี่กระทำวัยเด็ก 2 ครั้ง แท้จริงเพราะพ่อแม่เลี้ยงลูกผิดๆ สุดท้ายนำไปสู่การเฉลยพฤติกรรมที่แท้จริง
สถาบันครอบครัวถือพื้นฐานสำคัญของชีวิตที่หล่อหลอมให้โตมาอย่างมีคุณภาพ ไม่เช่นนั้น ชีวิตของเด็กคนหนึ่งอาจพลิกผันไปดังเช่นสาวเวียดนามคนนี้ ที่เมื่ออายุได้ 16 ปี จู่ๆ เกิดไม่มีความรู้สึกที่ขา ขยับไม่ได้
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ร่างกายไม่มีแรงเหลือแล้ว ”
เธอชื่อ ธรานทุย ชาวเวียดนาม แม้ว่าผลการตรวจของหมอจะออกมาว่าปกติดี เอกสารการแพทย์ยืนยันว่าร่างกายไม่มีปัญหา แต่เด็กสาวก็ยืนกรานคำเดิมว่าเธอเดินไม่ได้
แม้พาไปรักษาหลายที่ สุดท้ายพ่อแม่ของเธอก็ยอมจำนวนโชคชะตา ลูกสาวสาวคงเป็นโรคแปลกประหลาด รักษาไม่หาย
จากนั้นเป็นต้นมาธรานทุย ก็ได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง รอความช่วยเหลือและการดูแลจากญาติๆ
แท้จริงมีเบื้องหลัง โรคของเธอเป็นผลมาจากน้ำมือของพี่ชาย
ย้อนกลับไปในวันสุดท้ายของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2532 ในช่วงเวลายุ่งวุ่นวายของฤดูเก็บเกี่ยว ครอบครัวของหญิงสาวอาศันอยู่ที่หมู่บ้านเฮี๊ยบไกโป๋ อำเภอ พุกตานห์ จังหวัดฮาบิน ทุกคนต้องออกไปนาเพื่อเกี่ยวข้าว ยกเว้นธรานทุยซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้อง มักจะป่วยออดๆ แอดๆ
ขณะที่พี่ชายกำลังยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดบ้านและเตรียมไปทำงานกับทุกคนในทุ่งนา น้องสาวคนเล็กในตอนนั้นอายุ 16 ปี ก็นั่งเล่นสบายๆ ข้างนอกในสนามเด็กเล่น เมื่อเห็นดังนั้น พี่ชายจึงชักชวนให้เธอไปที่ทุ่งนากับเขา เพื่อช่วยงานเบา ๆ แต่เธอปฏิเสธ เมื่อพี่รบเร้า ด้วยความหงุดหงิด เธอจึงขึ้นเสียงปฏิเสธไปด้วยถ้อยคำหยาบคาย
พี่ชายได้ยินเดือดจัด น็อตหลุดตบหน้าน้องสาวตัวเอง 2 ครั้ง ปรากฎว่าหลังจากถูกตบ ร่างกายของธรานทุยก็ชักกระตุก มีน้ำลายฟูมปาก และในที่สุดก็ล้มลงกับพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว
ทั้งครอบครัวก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งและรีบนำเธอไปส่งโรงพยาบาลเขต อย่างไรก็ตาม หลังจากการทดสอบหลายครั้ง แพทย์ยังคงยืนยันว่าเธอ ไม่มีปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตามเด็กสาวก็เอาแต่บอกว่าขยับตัวไม่ได้ จนทุกคนค่อยๆ ยอมรับว่าเธอเป็นอัมพาตและทำได้เพียงให้เธออยู่บนเตียง. และดูแลเธอตั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม
ความจริงถูกเปิดเผย
หลังจากต้องนอนบนเตียงมาเกือบ 20 ปี หญิงสาวในวัย 30 เริ่มกลายเป็นภาระอันหนักหนา สมาชิกในครอบครัวหลายคนเริ่มแก่ตัวลง ทุกคนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพื่อช่วยเหลือให้น้องสาวมีชีวิตอยู่ได้บนเตียงนอนนี้
กระทั่งในปี 2550 แม่ของหญิงสาว เสียชีวิตหลังจากป่วยหนัก เมื่อขาดสมาชิกช่วยหาเงินไปคน สถานะทางการเงินของบ้านก็ค่อยๆ ตกต่ำลง แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดอันล้ำค่าที่ไม่อาจละทิ้งได้ ในที่สุดพ่อกับพี่ชายก็ตัดสินใจออกไปหางานทำมากขึ้นเพื่อดูแลทั้งครอบครัวและน้องสาวของพวกเขา
ในช่วงระหว่างที่พี่กับพ่อไม่ค่อยอยู่บ้านก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ลูกสาวของเพื่อนบ้านบอกพ่อแม่ว่าเธอเห็นป้า (ธรานทุย) เดินไปรอบๆ บ้านหลายครั้ง เธอยังบอกด้วยว่าวันหนึ่งเธอกลับมาจากโรงเรียนและเห็นป้าของเธอยืนนิ่งอยู่บนเตียง สิ่งนี้ทำให้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กลัวมาก
เพื่อนบ้านนำเรื่องนี้มาเล่าให้พี่ชายฟัง ตอนแรกเขาไม่เชื่อ คิดว่าเป๋นเพียงจินตนาการของเด็ก กระทั่งในเช้าวันหนึ่ง ระหว่างกลับมาจากทำงานเขาเห็นเงาแปลกๆ ในบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นหัวขโมย พอตรวจดู ก็เห็นแต่น้องสาวเท่านั้น
สิ่งต่าง ๆ เริ่มแปลกมากขึ้นเมื่อห่อถั่วลิสงในบ้านเหลือน้อย และทีวีในบ้านก็เปลี่ยนช่องเองทั้งที่เขากับพ่อไม่นิยมดูช่องนี้
ทั้งคู่จึงตัดสินใจตั้งกล้องวงจรปิดไว้อย่างลับๆ และทั้งคู่ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่กล้องถ่ายได้
กล้องบันทึกภาพน้องสาวของเขา เดินไปรอบๆ บ้านได้อย่างสบายๆ นั่งดูทีวีกิน ถั่วคนเดียวเป็นกิจกรรมที่สบายและสนุกสนานมาก โดยที่ไม่ต้องลำบากกับคนที่เป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปี เหมือนตนเอง พ่อ และแม่ผู้ล่วงลับ
เมื่อพี่ชายเอาหลักฐานไปคาดคั้น น้องสาวยังคงปฏิเสธ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ครอบครัวจึงพาเธอไปโฮจีมินส์เพื่อให้แพทย์ตรวจทุกอย่างอีกครั้ง
จากการตรวจอย่างละเอียด แพทย์ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่เป็นอัมพาตระยะยาวจะมีกล้ามเนื้อลีบ แต่กล้ามเนื้อแขนและขาของธรานทุยยังปกติดี จิตใจยังแจ่มใสและตื่นตัวมากโดยไม่มีปัญหาใดๆ
แพทย์ให้ผลสรุปว่าธรานทุยแกล้งทำเป็นเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปีแล้ว
โศกนาฏกรรมมาจากการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องของพ่อแม่
เป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่เธอแสร้งทำเป็นเป็นอัมพาต ไม่เพียงแต่ทำให้ครอบครัวของเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเท่านั้น แต่เธอยังทำลายอนาคตของเธอเองด้วย
จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ นักจิตวิทยาได้แสดงให้เห็นว่าเหตุผลที่ธรานทุย แสร้งทำเป็นเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปีนั้นมาจากการเลี้ยงดูแบบผิดๆ ของพ่อแม่
จากคำบอกเล่าของธรานทุยที่เล่าให้จิตแพทย์ฟังในภายหลัง จนนำไปสู่การวินิจฉัยว่ามีพฤติกรรมกลุ่ม “youngest child syndrome” ขั้นรุนแรง
เธอมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เธอไอและป่วยบ่อยครั้ง เมื่อเป็นลูกคนเล็ก จึงได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่เป็นพิเศษ
ธรานทุยได้รับการดูแลและปรนนิบัติอย่างดีจากญาติๆ ของเธอมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่งานเล็กๆ ไม่ต้องทำเอง เช่น สระผม หั่นแตงเป็นชิ้นเล็กๆ มีคนคอยป้อนอาหาร ปอกผลไม้ให้ แม่ของเธอยังทำทุกอย่างเพื่อเธออีกด้วย
การถูกเอาอกเอาใจมากเกินไปทำให้เด็กหญิงมีพัฒนาการทางสติปัญญาและจิตใจที่บิดเบี้ยว เธอเชื่อว่าญาติๆ ควรปฏิบัติต่อเธออย่างดี รัก และดูแลเธอเสมอ เมื่อเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เธอจะร้องไห้และเรียกร้องความสนใจหนักขึ้น
การเอาอกเอาใจมากเกินไปนี่เองที่ทำให้ธรานทุย แสดงตัวเองเป็น “ละคร” โดยทำตัวเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปี เพื่อให้ทุกคนคอยดูแลเอาใจใส่ ไปถึงขั้น ปรนิบัติรับใช้
เมื่อความจริงเปิดเผย พี่ชายเล่าว่าตอนนั้นเขาโกรธมาก เจ็บปวดจากการถูกหลอกมานานหลายปี เขายืนอยู่ต่อหน้าน้องสาวที่แสร้งทำเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปี และถามคำถามที่ทำให้ธรานทุย ครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ว่า“เธอเคยมองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกเสียใจต่อคนที่รักบ้างไหม แม่ต้องตายไปอย่างยากลำบากตลอดชีวิต แม่ห่วงเธอจนบมหายใจสุดท้าย”
สุดท้ายธรานทุยต้องตื่นขึ้นมารับความจริงที่ตัวเองก่อนาน 20 ปี เธอขอโทษญาติพี่น้อง และสัญญาว่าจะชดเชยความผิดพลาดในอดีต โชคดีที่ครอบครัวให้อภัย
หลังจากได้รับการรักษาทางจิตโดยได้รับการสนับสนุนจากพี่ชายและพ่อ ธรานทุยก็กลับคืนสู่หมู่บ้านอีกครั้ง ตอนนี้สามารถเดินได้ตามปกติและทำสิ่งที่มีประโยชน์ที่ไม่เคยทำมาตลอดชีวิต
เรื่องราวครอบครัวนี้ถูกเผยแพร่ตีแผ่ผ่านรายการโทรทัศน์วาไรตี้ของเวียดนาม หลังเทปนี้ออกอากาศ ประชาชนต่างถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า พี่ชายไม่มีความผิดในเรื่องนี้ เขาไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้โรคทางจิตของน้องสาวกำเริบ แต่ในเป็นเพราะนิสัยแย่ๆ ของเธอ และเธอไม่ควรเอาความรักของพ่อแม่และคนในครอบครัวทีมอบให้โดยบริสุทธิ์ใจมาหาผลประโยชน์ ตักตวงความสุขใส่ตัวเอง
อ่านข่าวที่เกี่บวข้อง
- อัยการสาว อนาคตดับวูบ คลิประเริงกามว่อนเน็ต แถมหนุ่มคู่ขาไม่ใช่สามี ชีวิตพัง x2
- เด็กหญิงวัย 10 ขวบ เก็บเงินทุกวันตลอด 3 ปี ตัดสินใจซื้อสร้อยทองให้ปู่
- เด็ก 9 ขวบ ปวดหัวรุนแรง ก่อนสมองตาย แพทย์ชี้ป่วยตั้งแต่เกิดเพราะโรคนี้
อ้างอิงจาก : soha