นักร้องหมอลำ แพรวพราว แสงทอง เคลื่อนไหว ปมสามี บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ โพสต์อ้างว่าถูกนอกใจ ก่อนฝ่ายหญิงแชร์คำคม อดทนมา 100 ครั้ง แต่พอทนไม่ไหว กลับเป็นคนร้ายในสายตาคนอื่น
ดูเหมือนคลื่นดราม่าจะเริ่มก่อตัวในวงการหมอลำอีกครั้ง กรณีของ ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หรือ บิ๊ก ธิติวุฒิ วรารุณ นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ระบายความในใจ อ้างว่า ตนเป็นคนซื่อสัตย์ต่อคนที่รัก แต่สิ่งที่ได้รับคือความเจ็บปวด ถ้าใครไม่เป็นตนคงไม่มีวันเข้าใจ เพราะฝ่ายหญิงคือรักแรก เป็นเมียคนแรกในชีวิต
ล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2567 เฟซบุ๊ก แพรวพราว แสงทอง ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการแชร์ภาพคำคม ความว่า อดทนมา 100 ครั้ง พอถึงครั้งที่ 101 ทนไม่ไหวเลยกลายเป็นคนร้ายในสายตาคนอื่น สุดท้ายไม่มีใครมองเห็นความเจ็บปวด 100 ครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เธอยังได้ระบุแคปชันเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เหยียบฉันให้จมดินไปเลย ถ้ามันทำให้เธอมีความสุข ถ้าคิดว่ามันเป็นผลดีกับลูก เด็กตาดำ ๆ ที่กำลังเติบโตขอบคุณที่ยังมีบางคนมองเห็นเหตุผลและเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงคนนี้
ฉันไม่ใช่คนดี 100% แต่กูกะบ่ได้ซั่วพอที่จะทำร้ายครอบครัว และเหยียบย่ำคนในครอบครัว หรือพูดเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น และเหยียบอีกคนให้ต่ำลง นี่เหรอคำว่าลูกผู้ชาย?
อย่างไรก็ตาม แพรวพราว แสงทอง ยังได้ทิ้งท้ายปิดจบโพสต์ดังกล่าวว่า ต่อไปนี้อะไรจะเกิดให้มันเกิด แต่จงจำไว้นะว่าผู้หญิงมันจดจำทุกเหตุการณ์ มันอาจจะไม่เคยพูด แต่มันสะสมทุกอย่าง อย่าคิดว่าตัวเองทำถูกต้องทุกอย่างเสมอไป ฉันก็คน มีความรู้สึก เจ็บเป็น โพสต์เดียวและโพสต์สุดท้ายที่จะพูด (เพราะลูกคือหัวใจ)
สำหรับชนวนเหตุดราม่า ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวความในใจทำนองว่า ตนอาจจะไม่ดีพอและไม่เพอร์เฟ็กต์สำหรับอีกฝ่าย ก็ยอมรับเพราะอายุน้อย แต่ก็ไม่เคยคิดนอกใจแม้แต่นิดเดียว
มีแต่ก้มหน้าก้มตาทำมาหากินเพื่อคนข้างหลัง วันนี้สิ่งที่ตนได้รับตอบแทนจากความซื่อสัตย์คืออะไร ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ดีแค่ไหน ถึงปล่อยให้หยามน้ำใจตนขนาดนี้
ถ้าตนไม่ดีหรือบกพร่องให้บอก พร้อมที่จะแก้ไขทุกอย่างเพื่อครอบครัว ทำไมต้องทิ้งกันกลางทาง มันใช่การแก้ปัญหาจริงหรือเปล่า ที่ปล่อยคนที่ 3 เข้ามาทำร้ายครอบครัว บอกเลยคนนี้กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา สุดท้ายทุกอย่างยังต้องเดินหน้าและพัฒนาต่อไปเพื่อคนข้างหลัง สถานะความเป็นพ่อแม่ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมตลอดไป