สรุปดราม่า “หมึกบลูริง” ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ พนักงานโร่ปฏิเสธ ก่อนนำไปทิ้ง
ย้อนรอยไทม์ไลน์ สรุปดราม่าพบ “หมึกบลูริง” ในร้านบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่ง แต่ทางร้านบอกปัดปฏิเสธว่าไม่ใช่ ก่อนจะยึดจานนำไปทิ้ง ล่าสุดคนที่กินไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
โลกโซเชียลแห่แชร์ภัยใกล้ตัว หลังมีคู่รักคู่หนึ่งไปกินร้านอาหารบุฟเฟ่ต์เกาหลี ในย่านกาญจนาภิเษก ก่อนจะพบว่าหมึกที่ตนเองคิดว่าเป็นหมึกอิคคิวนั้น กลับมีลักษณะคล้ายกับ “หมึกบลูริง” ที่มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า หากพิษเข้าร่างกายจะมีอันตรายถึงชีวิตได้เลย แต่เมื่อแจ้งทางร้านกลับปฏิเสธเสียดื้อ ๆ ก่อนจะนำหมึกดังกล่าวไปทิ้ง
ส่งผลให้คนกินนำข้อสงสัยมาถามในกลุ่ม ก่อนที่ชาวเน็ตจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่านั่นคือ “หมึกบลูริง” ทีมงาน เดอะ ไทยเกอร์ จะขอพาผู้อ่านทุกท่านย้อนรอยเหตุการณ์พร้อมสรุปเรื่องราว ดราม่าหมึกบูลริงในร้านบุฟเฟ่ต์ตั้งแต่ต้นจนถึงล่าสุด
สรุปดราม่า “หมึกบลูริง” ร้านบุฟเฟ่ต์เจ้าดัง
เมื่อคืนวันที่ 29 สิงหาคม 2566 คู่รักคู่หนึ่งไปกินร้านบุฟเฟต์สไตล์เกาหลีแห่งหนึ่งย่านกาญจนาภิเษก ขณะกำลังตักหมึกอิคคิวใส่จาน สังเกตเห็นหมึกตัวหนึ่งมีลายจุดสีน้ำเงิน คล้ายกับหมึกบลูริง ซึ่งเป็นหมึกที่มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า แถมยังทนความร้อนได้เกิน 200 องศา ถ้ากินเข้าไปอาจเสียชีวิตได้
ทั้งคู่จึงตัดสินใจไม่กินหมึกตัวนี้ และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะสอบถามพนักงานว่าหมึกตัวดังกล่าวเป็น “หมึกบลูริง” หรือไม่ พนักงานยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะลายจุดของหมึกบลูริงต้องเป็นสีดำ
อย่างไรก็ตามคู่รักแย้งว่าหมึกอาจเปลี่ยนสีเมื่อถูกความร้อนสูง เนื่องจากหมึกตัวดังกล่าวถูกต้มจนสุกแล้ว พนักงานจึงขอนำหมึกไปตรวจสอบที่หลังร้าน ก่อนจะกลับมายืนยันว่าไม่ใช่หมึกบลูริง แต่ได้ทิ้งหมึกตัวดังกล่าวไปแล้ว
ก่อนที่ทั้งคู่จะส่งรูปให้เพื่อนไปถามแชร์ในหลาย ๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม “นี่ตัวอะไร” และกลุ่ม “siamensis.org” โดยเพื่อนคนดังกล่าวใช้ชื่อแอคเคาท์ว่า “โจท่า จีน” เพื่อที่จะให้ดูว่าใช่หมึกบูลริงไหม
ผลลัพธ์ที่ได้คือ คนในกลุ่มบอกเป็นเสียงเดียวกันไม่มีแตกว่า เหมือนหมึกบลูริงมาก พร้อมกับแนะนำให้คู่รักที่กินบุฟเฟ่ต์ไปตรวจเช็กดูอาการที่โรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ อ.เจษฎร์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ก็มาตอบยืนยันว่าใช่หมึกบลูริง
ส่งผลให้ชาวเน็ตที่ทราบเรื่องดังกล่าว แสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิร้านบุฟเฟ่ต์ที่เอาหมึกไปทิ้ง แถมไม่ยอมพาลูกค้าไปส่งตรวจที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้หากเป็นหมึกบลูริงจริง แม้ไม่ได้ทานหมึกแต่น้ำที่ต้มก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการติดพิษไปด้วยนั่นเอง จากนั้นเมื่อเวลา 21.37 น. คู่รักที่ไปกินบุฟเฟ่ต์ก็เริ่มมีอาการอาเจียน ส่วนแฟนมีอาการแน่นหน้าอก
คุณโจ ท่าจีน อัปเดตว่า แม่ของเพื่อนได้ติดต่อทางร้านไปเมื่อคืน ทางร้านยืนยันว่าจะรับผิดชอบ และได้ติดต่อประมงแล้ว พร้อมทั้งหุ้นส่วนจากสาขาใหญ่จะมาเข้าพบตอนเวลา 01.00 น.
เช้าวันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566 คุณโจ ท่าจีน อัปเดตอาการว่าเพื่อนของตนยังเวียนหัวนิดหน่อย แต่สามารถรับประทานอาหารได้แล้ว หลังจากนี้จะมีอาการอย่างไรก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ.
อ้างอิง : 1