กมธ. ให้สัมภาษณ์ก่อนทอดบทเรียนเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู เผย ความรุนแรงจากเกมส์ อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นความก้าวร้าว หาแนวทางลดเหตุสลด
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือถอดบทเรียนเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ที่มีผู้เสียชีวิต 38 ศพ และมีเด็กรวมอยู่ด้วยหลายศพ
นายวัลลภ กล่าวว่า ในฐานะที่กมธ. มีหน้าที่เชิงนิติบัญญัติ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ใหญ่มาก และมีความสัมพันธ์กับปลีกย่อยอีกมาก ปัจจัยหลักที่สำคัญในการก่อเหตุอย่างหนึ่งคือยาเสพติด การเสพสารเสพติดบ่อยๆจะทำให้สติส่วนกลาง ซึ่งเป็นส่วนความรู้สึกนึกคิดรับผิดชอบถดถอยลง และมีสิทธิ์ที่จะขาดความยับยั้งชั่งใจได้
ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น มาจากอาวุธที่มีอยู่ใกล้ตัว เช่น การใช้หมัด เข่า หรือมีด แต่เมื่อใดที่มีภาวะความไม่พร้อมทางอารมณ์และมีอาวุธที่รุนแรงกว่าร่วมด้วย โอกาสที่จะใช้อาวุธเหล่านั้นทำร้ายผู้อื่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่กมธ.จะนำไปพิจารณาศึกษาความย่อหย่อนของการควบคุมยาเสพติด และอาวุธที่ร้ายแรง
เชื่อว่ามีปัจจัยมาจากภาวะสังคมไทยที่ทำให้คนเกิดความเครียด จึงจำเป็นจะต้องมีศูนย์คอยรับคำปรึกษาเมื่อเกิดภาวะความเครียด โดยกมธ.จะต้องผลักดันกลไกนี้ให้มีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงกระบวนการพิจารณาคดี แม้ศาลจะมีถึงชั้นฎีกา แต่เมื่อสั่งลงโทษไปแล้ว 10 ปี แต่กระบวนการภายนอก 3 ปีก็ถูกปล่อยตัวแล้ว ซึ่งระยะเวลา 3 ปียังไม่สามารถบำบัดอาการเจ็บป่วยทางจิตของผู้ที่ทำความรุนแรงได้เลย และยังอาจกลับมากระทำความรุนแรงต่อได้อีก
นายวัลลภ ได้หยิบยกงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่า อาชญากรที่ก่อเหตุทั่วโลก เพราะสะสมความรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งจากการเลี้ยงดู สื่อที่กระตุ้นเร้าอารมณ์แบบผิดๆ และปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมความรุนแรง น่าจะมาจากการเล่นเกมส์ จึงอาจเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะหารือกันว่า จะมีการควบคุมหรือจำกัดกลุ่มอายุของผู้เล่นเกมส์ได้อย่างไร
“ที่ผ่านมาเมื่อเกิดวิกฤตในช่วงแรกของเหตุการณ์ ต่างก็มีข้อเสนอมากมาย แต่บทเรียนของสังคมไทยที่เกิดขึ้นมาตลอดคือ เมื่อขานรับแนวทาง 1 เดือน หลังจากนั้นทุกอย่างก็เหมือนเดิม ในเวทีโต๊ะกลมนี้นอกจาก ส.ว. แล้ว ยังมีเครือข่ายทำงานด้านเด็ก จิตวิทยา ด้านสังคมสงเคราะห์ ยุติความรุนแรง สันติวิธี โดยจะลงปณิธานร่วมกันในท้ายของการเสวนาด้วย เพื่อกำกับผลักดันและทำให้สิ่งที่เป็นมาตรการที่มีการเสนอออกมาให้ได้รับการขานรับและดำเนินการต่อเนื่องได้” นายวัลลภ กล่าว
