รองโฆษกตำรวจ แจงเหตุระเบิดที่บันนังสตา ยะลา ไม่มีคนเจ็บ เร่งเช็กกล้องวงจรปิด
เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ล่าสุด รองโฆษกตำรวจ แจงเหตุระเบิดที่บันนังสตา ยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เร่งเช็กกล้องวงจรปิดล่ามือวางระเบิด ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งเบาะแส
ข่าวความไม่สงบภาคใต้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ จว.ยะลา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.02 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ทาง สภ.บันนังสตา จว.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวน ลักลอบวางระเบิด ที่บริเวณ ถ.เส้น 410 ใกล้ปากทางเข้าโรงเรียนคัมภีร์ หมู่ที่ 9 บ้านเจาะปันตัง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จว.ยะลา ในเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่อีโอดี (EOD) และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
เมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่อีโอดี (EOD) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชนรวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป
เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใด ๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของความเสียหายของสถานที่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยในเบื้องต้นมีรถยนต์หุ้มเกราะ 4 ประตูได้รับความเสียหาย จำนวน 1 คัน
จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคล และคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
ที่มา : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- จับได้แล้ว ชายต่อยพระธุดงค์ อ้างนึกว่าพระปลอม แถมไม่ให้พรเป็นภาษาบาลี
- ศบค. ยะลา ประกาศ เลื่อนเปิดเทอมล่าสุด ไปเป็น 30 มิ.ย.
- โควิด-19 8 พฤษภาคม ไทยติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย สะสมแตะ 3,000 ราย