เซี่ยงไฮ้ ยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ นำรั้วมาตั้ง ห้ามประชาชนออกนอกบ้าน
สถานการณ์ของการ ล็อกดาวน์ เซี่ยงไฮ้ ยังคงทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางการ นำรั้วมาตั้งรอบบ้าน กันไม่ให้ประชาชนออกนอกพื้นที่
เมื่อวันที่ 25 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ในนครเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีนได้นำรั้วสีเขียวความสูงประมาณ 2 เมตรมาติดตั้งหน้าบ้านของประชาชนที่ติดโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยซึ่งนี่ถือเป็นการยกระดับความเข้มงวดในช่วงล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้
โดยมาตรการนี้จะส่งผลกระทบทั้งประชาชนที่ติดโควิดและไม่ติดโควิด ไม่ให้ออกนอกพื้นที่ ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในพื้นที่โซนรั้วสีเขียว
ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กักกัน ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า รั้วสีเขียวนี้ถูกติดตั้งในบริเวณบ้านของเขา โดยเขาเชื่อว่าเพื่อนบ้านของติดโควิด-19 ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้คำเตือนกับประชาชนถึงสาเหตุในการตั้งรั้วดังกล่าวแต่อย่างใด
ซึ่งชาวต่างชาติคนดังกล่าวตั้งคำถามว่า “หากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาจะทำยังไง? ผมไม่คิดว่าคนที่มีสติดีจะขังผู้คนภายในบ้านของพวกเขา”
โดยทางการจีนนั้นได้สั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ที่มีผู้พำนักกว่า 25 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มียอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์นั้นทำให้มีรายงานถึงปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะขาดแคลนอาหาร รวมถึงคำสั่งที่ สั่งให้ประชาชนนับร้อยครัวเรือนให้ย้ายออกจากอาคารเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะเข้าฆ่าเชื้อ โดยจะสั่งย้ายประชาชนที่ติดโควิดและเป็นกลุ่มเสี่ยงให้ไปอยู่ในพื้นที่กักตัวที่รัฐบาลจัดเอาไว้
ประเทศจีนนั้น ถือเป็นประเทศที่มีมาตรการกับโควิดต่างออกไป โดยหลายชาติมุ่งเน้นในการใช้มาตรการอยู่ร่วมกับโควิด ขณะที่จีนยังคงพยายามกดจำนวนผู้ป่วยโควิดให้เป็นศูนย์
- เซี่ยงไฮ้ เพิ่มความเข้มงวดมาตรการล็อกดาวน์ สั่งย้าย ปชช. ออกจากที่พัก
- เซี่ยงไฮ้ ประกาศ ล็อกดาวน์ หลังยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่ม
- ประชาชนใน เซี่ยงไฮ้ ประท้วง หลังจากที่เผชิญปัญหาอาหารขาดแคลน