อาจารย์เจษฎา อธิบายชัด ไข่ต้มจนเป็นสีเขียวในส่วนของไข่แดง กินแล้วไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารก่อมะเร็ง วิธีหลีกเลี่ยงอย่าต้มนานจนเกินไป
วันที่ 7 ต.ค. 2564 อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ กรณีมีการแชร์เรื่องการต้มไข่นานกว่า 10 นาที ลงบัญชี TikTok แล้วส่วนที่เป็นไข่แดงจะมีสีเขียวหุ้มกินแล้วอาจก่อให้เกิดอันตราย หรือก่อมะเร็งได้
เรื่องนี้ อาจารย์เจษฎา อธิบายว่า เป็นแค่การเปลี่ยนสภาพของแร่ธาตุที่อยู่ในไข่เท่านั้น ไม่ได้เกิดกรดซัลฟูริก (กรดกำมะถัน) และไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยสีเขียวที่เห็นขึ้นเป็นชั้นรอบไข่แดงต้มนั้น ไม่ใช่ความผิดปรกติของไข่ แต่เกิดจากการที่เราต้มไข่นานเกินไป จนทำให้ ธาตุซัลเฟอร์ (กำมะถัน) และไฮโดรเจนตามธรรมชาติในไข่ขาว ทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้น แล้วไฮโดรเจนซัลไฟด์ฃไปทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กตามธรรรมชาติในไข่แดง เกิดเป็นสารประกอบสีเขียวอมเทา ชื่อ เฟอรัสซัลไฟด์ (ferrous sulfide) หรืออีกชื่อคือ ไอรอนซัลไฟด์ (iron sulfide) ซึ่งไม่ใช่สารอันตราย หรือ ก่อมะเร็ง อย่างที่ว่าแต่อย่างไร
วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดสารสีเขียวนี้ คือการต้มไข่ไม่ให้นานเกินไป และให้ไปแช่น้ำเย็นทันที จะหยุดการเกิดปฏิกิริยาได้ครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
- อาจารย์เจษฎ์ เตือนอย่าหลงเชื่อเซเลบคนดังแชร์ข้อมูล อาหารห้ามกินช่วงโควิด
- เตือนอย่าหลงซื้อ ชุดตรวจโควิด COVID-19 Home Test จากเกาหลี
- 7 เมนูอาหารภูเก็ต เด็ดๆ พลาดไม่ได้!
