วานนี้ (26 มิ.ย.) เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า มีการพบชายร่างกายผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ผิวหนังซีดเซียว และมีบาดแผลเจ็บสาหัส มีสภาพใกล้สิ้นลมหายใจ โดยชายผู้นี้ถูกหมีสีน้ำตาลทำร้ายและลากตัวไปเก็บเอาไว้ในถ้ำที่อยู่ของมันนานถึง 1 เดือน เพื่อเตรียมไว้เป็นอาหารในอนาคต
ชายคนนี้ระบุชื่อเพียงว่า อเล็กซานเดอร์ ถูกพบโดยสุนัขล่าสัตว์ของกลุ่มผู้ล่าสัตว์ในพื้นที่ห่างไกลของสาธารณรัฐตูวา ประเทศรัสเซีย
อเล็กซานเดอร์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์พบว่ามีอาการ กระดูกสันหลังหัก และกล้ามเนื้อฉีกขาดหลายจุด จากการถูกหมีทำร้าย นอกจากนี้ยังมีเนื้อบางส่วนที่เริ่มเน่าเพราะเขานอนนิ่งๆ อยู่ในถ้ำเป็นเวลานาน แพทย์ประหลาดใจมากที่เขาสามารถรอดชีวิตมาได้ทั้งๆ ที่อยู่ในอาการบาดเจ็บรุนแรงแบบนี้
เคราะห์ดีที่ทีมแพทย์สามารถรักษาอาการของอเล็กซานเดอร์จนอาการดีขึ้นและพอมีสติพูดคุยได้แล้ว โดยเขาเล่าว่า เขาถูกหมีเล่นงานอย่างรุนแรง และลากตัวเข้าไปในถ้ำ แล้วทิ้งไว้นานนับเดือน เขาบอกว่า “หมีมันตั้งใจเก็บผมไว้กินเป็นอาหาร ผมดื่มฉี่ของตัวเองเพื่อให้มีชีวิตรอด”
เรื่องนี้ ดร.หลุยส์ เจนเทิล ผู้เชี่ยวชาญและผู้วิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ป่า จากมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮมเทรนต์ ในอังกฤษ เผยว่า การที่หมีทำร้ายและลากเหยื่อเข้าไปไว้ในถ้ำเป็นเรื่องที่แปลกมาก และก็เป็นเรื่องน่าทึ่งที่อเล็กซานเดอร์ยังมีชีวิตรอด เพราะปกติหมีจะไม่เข้าใกล้มนุษย์ กรณีเช่นนี้เหมือนว่าหมีจะตั้งใจเก็บเขาไว้เป็นอาหาร และการที่หมีโจมตีเขา อาจเป็นไปได้ว่ามันอาจจะมีลูกอยู่ใกล้ๆ และต้องการปกป้องลูกของมัน
ขอบคุณเนื้อหาจาก Kapook
ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์เดอะซัน
