ข่าว

เพจดัง สงสัย “แม่ทัพกุ้ง” พูดทำไม มีคนสั่งหยุดยิงเขมร แต่ไม่บอกชื่อ ทำกองทัพปั่นป่วน

จากกรณี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หรือ แม่ทัพกุ้ง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในช่วง 6 ชั่วโมงแรกของการปะทะกับกัมพูชา มีคำสั่งให้ยุติการปะทะทันที โดยคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 6 ทุ่มของคืนแรกที่เริ่มการต่อสู้ ซึ่งท่านยืนยันว่ามีผู้ “ขอร้องให้หยุดเลย”

อย่างไรก็ตาม แม่ทัพกุ้งได้ตัดสินใจขัดคำสั่งดังกล่าว ยืนกรานไม่หยุด พยายามเจรจาต่อรองกับผู้บังคับบัญชา แต่ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการต่อเพราะ “เข้าเกียร์ 1 แล้ว” ท่านระบุด้วยว่า หากในวันนั้นท่านยอมหยุด ท่านจำเป็นต้องออกมาเปิดเผยว่าใครเป็นผู้สั่ง จะทำให้บุคคลนั้นอยู่ไม่ได้ และเปรียบเทียบคำสั่งนี้ว่ารุนแรงถึงขั้นโทษประหาร เพราะเป็นการขัดขวางการทวงคืนแผ่นดิน

สำหรับสาเหตุที่คาดว่ามีการสั่งให้หยุดยิง แม่ทัพกุ้งสันนิษฐานว่าผิดแผนเขมร โดยเชื่อว่ากัมพูชามีเจตนาให้ไทยเป็นฝ่ายบุกรุกและมีผู้เสียชีวิต เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก และเรียกร้องดินแดน 3 ปราสาท 1 พื้นที่คืน แต่เมื่อท่านรู้ทันแผนการนี้ จึงตัดสินใจไม่หยุดและเดินหน้ายึดพื้นที่คืนเพิ่มเติมแทน

สั่งปิดตาย ชายแดนบ้านหาดเล็ก จ.ตราด ห้ามไทยเข้า-เขมรออก ทุกกรณีไม่มียกเว้น

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า แม่ทัพกุ้งกลับมาพูดเรื่องเคยปฏิเสธคำสั่งหยุดยิง แต่ไม่ยอมระบุชื่อผู้สั่งการ “ไม่รู้จะพูดทำไม” เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ ยังสร้างความปั่นป่วนให้คนอื่นต้องออกมาแก้ข่าว และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์กองทัพ ทำให้ดูเหมือนการทำงานขาดเอกภาพและไม่เป็นระบบ

“เอาจริง ๆ ไม่รู้ว่าพลโท บุญสิน พาดกลาง อดีต #แม่ทัพภาคที่2 หรือ #แม่ทัพกุ้ง ออกมาพูดอีกทำไมว่ามีคนมาขอให้หยุดยิงหลังจากการปะทะผ่านไป 6 ชั่วโมง แต่ตนเองไม่หยุด แล้วบอกว่าถ้าหยุดจะต้องเอ่ยว่าใครเป็นคนบอกให้หยุดซึ่งจะผิดข้อหากบฎ แต่ทั้งหมดนี้ พลโท บุญสิน ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร

เอาจริง ๆ ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อตัดสินใจจะพูดแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมบอกชื่อ? อันนี้เข้าข่ายว่า รู้นะแต่ไม่บอกหรอก ฃ ซึ่งมันก็จะกลายเป็นมีหลายคนถามว่า แล้วจะพูดทำไม? และนั่นก็คือคำถามในประเด็นนี้เหมือนกันคือ พูดแบบนี้ได้อะไรขึ้นมา?

เพราะนอกจากจะไม่บอกอะไรแล้ว ยังทำให้ทุกคนปั่นป่วนไปหมด ต้องมีคนโน้นคนนี้เริ่มทะยอยออกมาแก้ข่าวแน่นอน คนนึงก็คือพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่นั่งอยู่ดี ๆ โดนโจมตีหาว่าเป็นคนสั่ง จนต้องออกมาแก้ข่าว
แล้วคอยดูว่า #กองทัพบก จะต้องออกมาแก้ข่าวไหม ซึ่งถ้าแก้ข่าวมันก็จะเป็นเรื่องตลก เพราะที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบกให้ข่าวจนกองทัพบกต้องมาแก้ข่าวเสียเอง

ย้ำอีกทีคือไม่รู้ว่าพลโท บุญสินพูดแบบนี้ต้องการอะไร จริง ๆ ถ้าแมน ๆ อยากจะแฉหรืออยากจะเปิดเผยความจริง ก็ควรจะพูดชื่อมาเลย หรืออย่างน้อยก็ส่งข้อมูลให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เปิดเผยให้แทน แล้วจะได้ดำเนินการกันต่อ แบบนี้จะดูจริงใจมากกว่า หรือไม่ก็ไม่ต้องพูดเลย ไปเคลียร์กันข้างหลัง

แต่พอพูดแบบนี้ นอกจากจะทำให้สังคมปั่นป่วน แถมมีผู้ใหญ่หลายคนต้องออกมาปฏิเสธแล้ว มันยังไม่ได้ช่วยให้ภาพลักษณ์ของกองทัพดีขึ้นเลย เพราะแทนที่มันจะแสดงให้เห็นว่ากองทัพไม่สนใจใครยึดมั่นการปฏิบัติการทางทหารอย่างเดียว มันกลับแสดงให้เห็นว่ากองทัพปฏิบัติงานเป็นเอกเทศ ไม่สนใจคำสั่งหรือแม้แต่ไม่สนใจความเห็นจากใคร

เอาจริง ๆ ถ้าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจบังคับบัญชาแล้วพลโท บุญสินไม่ปฏิบัติตาม อาจถือว่าพลโท บุญสิน ละเมิดวินัยทหารด้วยซ้ำ กลับกันเลยคนที่สั่งก็ไม่ผิดฐานกบฎแน่นอน มันไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานเป็นกบฎแน่ ๆ เป็นการตีความกฎหมายเกินเลยหลักการไปมาก

อันนี้พูดได้เลยว่า TAF คุยกับผู้ใหญ่หลายคน หลายคนที่คุยนั้นไม่อยู่ในลิสต์ของคนสั่งที่พลโท บุญสิน พูดแน่ ๆ แต่แทบไม่มีใครสักคนที่เห็นด้วยกับการพูดแบบนี้ของพลโท บุญสิน เพราะไม่รู้ว่าต้องการอะไร บางคนคอมเมนต์ด้วยซ้ำว่าพลโท บุญสิน หาแสงมากเกินไปแล้ว

ซึ่งก็นั่นแหละ เราคิดว่าช่วงหลัง พลโท บุญสิน มีปัญหาโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองเริ่มจัดการกับชื่อเสียงที่โด่งดังไม่ค่อยได้ ตามประสาคนแก่ที่เพิ่งมาดังตอนอายุ 60 ในโลกยุคโซเชียลมีเดียและ AI การรับมือกับชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ยาก และเราคิดว่าช่วงหลังพลโท บุญสิน ทำได้ไม่ดี

แน่นอนที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าจะแย้งหรือเตือน เพราะกระแสความนิยมในตัว พลโท บุญสิน สูงมาก และเมื่อพูดน้อยก็พลาดน้อย แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้พลโท บุญสิน ไม่รู้ว่าบางอย่างควรพูด บางอย่างไม่ควรพูด บางอย่างไม่รู้จะพูดทำไม และพอพูดมากขึ้น ก็พลาดมากขึ้น

อย่างเรื่องนี้ ถามกลับเลยว่า มันช่วยให้กองทัพบกดูดีขึ้นมาหรือไม่ แม้ว่าเราจะ Romanticize ได้ว่าเห็นไหมแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดทำการรบกับกัมพูชาโดยไม่สนใจ แต่ในทางกลับกัน มันแสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่าการทำงานไม่เป็นระบบ ไม่เป็นเอกภาพ หรือกัมพูชาอาจจะเอาไปตีได้เลยด้วยซ้ำว่า กองทัพไทยไม่ลงรอยกับฝ่ายอื่นในประเทศไทย ทำให้สถานการณ์แย่ลงในตอนนั้น แล้วโยนความผิดมารัว ๆ

ที่สำคัญ มันไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าประเทศไทยสามัคคีกันในยามวิกฤต กลับกันมันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยตัวใครตัวมันมาก ๆ จริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกที่ตอนแรกเราคิดว่าศึก #ชายแดนไทยกัมพูชา เหมือนเราชนะใส ๆ แต่เวลาผ่านไปพอข้อเท็จจริงเริ่มปรากฎ กลายเป็นถ้าผลงานแบบนี้ไม่อยากเรียกว่าชนะด้วยซ้ำ

ยังไงในฐานะที่พลโท บุญสิน เป็นที่ปรึกษาของผู้บัญชาการทหารบก ก็ฝากผู้บัญชาการทหารบกเตือนหน่อยเถอะว่าพูดอะไรควรวางแผนก่อน หาคนร่างสุนทรพจน์ให้ก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งคิดอะไรแล้วพูดออกไปโดยไม่ทันตระหนักว่าสิ่งที่พูดจะกระทบกับใครหรือองค์กรใดบ้าง

เพราะไม่งั้น กองทัพบกก็จะเสียเอง และจากที่พลโท บุญสิน มีแต่คนชื่นชมทั้งประเทศ จะกลายเป็นเริ่มมีศัตรูหรือมีคนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็น และถ้าพูดไม่เป็น ไม่ต้องพูดเลยแบบผู้บัญชาการทหารบกที่เราแทบไม่เคยได้ยินเสียงเลย ยังจะดีเสียกว่าพูดแล้วมีเรื่องแบบนี้ครับ #ไทยกัมพูชา”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button