เดชา เผยปม GPS ทนายตั้มแอบติดจริง แจ้งพยายามฆ่าได้ทันที
ทนายเดชา ชี้ชัด ทนายตั้ม ถ้าแอบติดจีพีเอส รถเบนซ์เจ๊อ้อยเศรษฐีนีจริง มมีสิทธิเจอข้อหาพยายามฆ่า นักกฎหมายเพื่อนซี้อ้างอีกปมพินักรรมสอดไส้ รับแล้วทำจริงแต่ทำลายไปแล้ว ท่ามกลาง สนธิ เดินหน้าเอาผิดสุดซอยจนนรกแตก
จากกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาแฉพร้อมกับย้ำชักว่ามีหลักฐานที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด แอบติดจีพีเอส (GPS) ไว้ที่รถยนต์ของเจ๊อ้อย เศรษฐีนี ที่มีคดีฉ้อโกงเงินกันกว่าหลายร้อยล้าน โดยทนายตั้มถูกอีกฝ่ายกล่าวหาว่าชอบออกอุบายพาเศรษฐีหญิงไปเที่ยวเขื่อนยังที่ไกล ๆ
เช่น เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี หรือวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่อับสัญญาณ อีกทั้งยังแอบติดสัญญาติดตามไว้ที่รถ ซึ่งการกระทำทั้งหมดกำลังถูกตั้งข้อสงสัย มีแผนการอะไรเช่นเรื่องของฆาตกรรมและฮุบมรดกร่วมด้วยหรือไม่
ข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้จัดการ ประเด็นที่มาที่ไปของจีพีเอสระบุว่า ถูกติดไว้ที่รถเบนซ์ของพี่อ้อย ทนายตั้มเป็นคนลงมือติดเอง ในสัญญาติดตั้งจีพีเอสใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปีและมีหลักฐานว่านายษิทราแอบดูข้อมูลการเดินทางอีกฝ่ายว่าไปที่ไหน หลักฐานเมื่อ ก.ย.67 หลังเกิดเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้ม แอบเข้าไปดูจีพีเอสว่ารถพี่อ้อยเดินทางไปสถานที่ใดบ้าง
ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวถึงกรณีแอบติดจีพีเอสไว้ที่รถนั้น หากสืบข้อเท็จจริงแล้วปรากฎเป็นไปตามที่กล่าวหา อย่างไรก็ดีนายเดชาอ้างหลังจากสอบถามกัลทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ว่า มีการติดจีพีเอสรถของพี่อ้อยจริงไหม ซึ่งอีกฝ่ายให้ข้อมูลแล้ว โดยทนายตั้มตอบว่า “ไม่ใช่เรื่องจริง”
แต่ ทนายเชา ได้ยกกรณีสมมติว่า มีการติดจริง ขอแนะนำให้ฝ่ายผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีเพราะถือว่ามีความผิดในฐานพยายามฆ่าโดยไต่ตรองไว้ก่อน และครบองค์ประกอบความผิด แม้ผู้เสียหายยังไม่ถึงแก่ความตายก็ดำเนินคดีได้
ตอนท้ายยังกล่าวถึงกรณีที่ทนายตั้มให้เจ๊อ้อยทำพินัยกรรมหลายฉบับ โดยทนายตั้มได้เขียนชื่อตัวเองให้เป็นผู้จัดการมรดก ฝั่งของนายเดชาอ้างว่าทนายตั้มยอมรับกับสายหยุดแล้วว่า ทำจริง แต่ได้ยกเลิกพินัยกรรมไปแล้ว แต่กรณีนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้ข้อมูลแย้งว่าไม่ได้ทำลายพินัยกรรมต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า ฉะนั้นจึงเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้ซึ่งต้องเอาผิดถึงที่สุด.
อ่านข่าวเพิ่มเติม