ทีมชาติไนจีเรีย ถูกลอยแพที่สนามบินโดยไม่มีอาหารและน้ำนาน 12 ชั่วโมง พร้อมถอนตัวเดินทางกลับประเทศยกเลิกการแข่งกับลิเบีย ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการลูกหนังโลกเมื่อ ทีมชาติไนจีเรีย มีโปรแกรมลงแข่งขันพบกับ ทีมชาติลิเบีย ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
อย่างไรก็ตามเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ เที่ยวบินของทัพอินทรีมรกต หรือทีมชาติไนจีเรีย ได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางให้มาจอดที่สนามบินอัล อับรัค ซึ่งห่างจากปลายทางที่พวกเขาต้องไปมากถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งหากต้องเดินทางด้วยรถยนต์ต้องใช้เวลามากถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง
ทำให้เหล่าบรรดานักเตะและทีมงานของทีมชาติไนจีเรีย ถูกทิ้งอยู่ที่สนามบินโดยปราศจากอาหารและน้ำนานกว่า 12 ชั่วโมง รวมไปถึงรับที่มารับก็มีสภาพเก่าเกินที่นักเตะจะเต็มใจจะเดินทางไป และส่งผลให้พวกเขาตัดสินใจเดินทางกลับและยกเลิกการแข่งขันในเวลาต่อใส
โดย สหพันธ์ฟุตบอลไนจีเรีย หรือ NFF ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ว่า “การเปลี่ยนเส้นทางที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้นักเตะและเจ้าหน้าที่ต้องติดค้างอยู่ โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากสมาคมฟุตบอลลิเบีย รวมถึงการเดินทาง”
“คณะผู้แทนไนจีเรียสำหรับการแข่งขัน AFCON 2025 รอบคัดเลือกกับลิเบียในวันอังคารนี้ ยังคงอยู่ที่สนามบินอัล อับราก เป็นเวลา 12 ชั่วโมงหลังจากลงจอด เครื่องบินเช่าเหมาลำ ValueJet ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินขนาดเล็กอย่างแปลกประหลาดและอันตราย ในขณะที่นักบินกำลังจะลงจอดที่สนามบินเบงกาซี”
“สนับสนุนการตัดสินใจของผู้เล่นที่จะไม่ลงแข่งขันรอบคัดเลือก เนื่องจากความเหนื่อยล้าและความหงุดหงิดจากการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม”
ในขณะที่ สหพันธ์ฟุตบอลลิเบีย ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ไว้ว่า “การหยุดชะงักอาจเกิดขึ้นได้จากพิธีการการจราจรทางอากาศตามปกติ การตรวจสอบความปลอดภัย หรือความท้าทายด้านการขนส่งอื่นๆ”
“เราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆ ที่บ่งชี้ถึงการเล่นไม่ซื่อหรือการก่อวินาศกรรมในสถานการณ์นี้ เราหวังว่าความเข้าใจผิดนี้จะได้รับการแก้ไขด้วยความเข้าใจและความปรารถนาดี”
อ้างอิงข้อมูลจาก : 1
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง