จากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้คนไทยติดสถานะหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ธนาคารออมสิน จึงได้ออกมาตรการ รับรีไฟแนนซ์แก้หนี้ 4 กลุ่มสินเชื่อ ได้แก่ ลูกหนี้บัตรเครดิต ลูกหนี้ P-Loan ลูกหนี้นาโนไฟแนนซ์ และลูกหนี้สินเชื่อบ้าน หวังแก้ปัญหากลุ่มเปราะบางไม่ให้ไปกู้หนี้นอกระบบ บทความนี้เราจะมาอธิบายจุดเด่นและเงื่อนไขของมาตรการรับรีไฟแนนซ์จากรัฐบาลว่ามีจุดเด่นอะไรน่าสนใจบ้าง
1. Re–Card รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต
Re–Card เป็นบริการรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิตที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินล้นมือ เผชิญภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงลิ่ว ช่วยให้เราสามารถจัดการกับหนี้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเสนอทางเลือกในการรีไฟแนนซ์/รวมหนี้บัตรเครดิตมาผ่อนชำระกับธนาคารออมสินในรูปแบบเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan)
จุดเด่นของ Re–Card
– ช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 16% ต่อปี ลงเหลือ 8.99% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น)
– ผ่อนชำระสบายกระเป๋า ธนาคารออมสินให้ผ่อนชำระเงินกู้ระยะยาวได้สูงสุด 7 ปี ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับหนี้สินได้อย่างไม่เร่งรีบ
– ให้วงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของรายได้รวม สูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท ช่วยให้คุณสามารถรวมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดมาผ่อนชำระได้อย่างสะดวก
– ไม่ต้องมีหลักประกันในการขอสินเชื่อ การรีไฟแนนซ์ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยให้คุณมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจหรือใช้จ่ายในยามจำเป็น
2. Re P–Loan รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
สำหรับ Re P–Loan บริการรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan : P–Loan) ที่ต้องการปลดหนี้สิน และภาระดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลสูง เป็นทางเลือกในการรีไฟแนนซ์/รวมหนี้ P–Loan มาผ่อนชำระกับธนาคาร
จุดเด่นของ Re P–Loan
– รีไฟแนนซ์หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีดอกเบี้ยสูงสุด 25% ลดลงเหลือที่อัตราดอกเบี้ยเพียง 15% ต่อปี ช่วยให้คุณประหยัดค่าดอกเบี้ยได้อย่างมหาศาล
– ผ่อนชำระสบายกระเป๋า ธนาคารให้ผ่อนชำระเงินกู้ระยะยาวได้สูงสุด 5 ปี ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับหนี้สินได้อย่างไม่เร่งรีบ
– วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 100,000 บาท ช่วยให้คุณสามารถรวมหนี้ P–Loan ทั้งหมดมาผ่อนชำระได้อย่างสะดวก และไม่ต้องใช้หลักประกันในการขอสินเชื่อ
3. Re–Nano รับรีไฟแนนซ์ ผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย
บริการรีไฟแนนซ์สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยหรือ Re–Nano เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินจากสินเชื่อ Nano Finance สูง ที่กู้ไปเพื่อลงทุนในการประกอบอาชีพ
จุดเด่นของ Re–Nano
– ช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 33% ต่อปี ลงเหลือ 18% ต่อปี ธนาคารให้ผ่อนชำระเงินกู้ระยะยาวได้สูงสุด 8 ปี ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับหนี้สินได้อย่างไม่เร่งรีบ
– วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท ช่วยให้คุณสามารถรวมหนี้สินเชื่อ Nano Finance ทั้งหมดมาผ่อนชำระได้อย่างสะดวก
– ธนาคารออมสินร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกันการกู้ ช่วยให้คุณเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
4. Re–Home : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย
ไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ Re-Home สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น
จุดเด่นของ Re–Home
– วงเงินกู้ 1–5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมที่ประมาณ 6 – 7% ต่อปี ลงเหลือ 1.95% ในปีที่ 1 (ปีที่ 2 = 2.95% ปีที่ 3 = 3.95%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี
– เงื่อนไขผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 3,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน และปีที่ 3 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน
อนึ่ง ธนาคารสนับสนุนนโยบายรัฐในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของประชาชน ให้สามารถมีเงินเหลือใช้สอยดำรงชีพโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบ รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังทัศนคติการกู้เงินเท่าที่จำเป็นและผ่อนไหว ทั้งนี้ มาตรการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ “โครงการสินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เปิดให้ยื่นขอกู้ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 และจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สินเชื่อออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ วงเงินกู้สูงสุด 1 แสนบาท ดอกเบี้ยเพียง 1.8% ต่อเดือน
- เริ่มแล้ว ลงทะเบียนแก้หนี้ออมสิน ยกดอกเบี้ยค้างให้ทั้งหมด ยื่นทางออนไลน์
- เริ่ม 1 เมษา วันแรก ฝากเงินออมสิน ลุ้นรางวัลที่ 1 ถึง 111 ล้านบาท
อ้างอิง : ธนาคารออมสินแห่งประเทศไทย