นายกมาแอนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชายหาดเลพัง หลังศาลฎีกามีคำพิพากษา ให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์

Bill Barnettเผยแพร่: 22 ธ.ค. 2560 15:41 น.| อัปเดต: 14 ม.ค. 2562 06:41 น.

128

นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.เชิงทะเล) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร.25 พัน 2 และ ร.ท.ทักษิณ พุกลิ้ม ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 สนธิกำลังทหารบก ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ อบต.เชิงทะเล จำนวนกว่า 30 นาย ลงสำรวจพื้นที่บริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลางซึ่งเป็นพื้นที่งอกตามธรรมชาติ แต่ถูกกลุ่มนายทุนและผู้กว้างขวางในพื้นที่บุกรุกถือครอง กระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ให้ที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เนื้อที่รวมประมาณ 178 ไร่ และให้ผู้ครอบครองจำนวน 9 ราย พร้อมบริวารออกจากที่ดินดังกล่าวทั้งหมด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการปิดประกาศให้ผู้บุกรุกครอบครองออกจากพื้นที่ และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกที่สาธารณะ ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา แม้จะมีผู้ยอมรับคำพิพากษาของศาล และแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งส่งมอบพื้นที่คืนให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ แต่พบว่า ยังมีหลายรายที่ส่งบริวารเข้ายึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะดังกล่าวรวมทั้งมีการปิดป้ายแสดงสิทธิในที่ดินด้วย

นายมาแอน สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่มีชื่ออยู่ในคำพิพากษาจำนวน9 ราย ได้มีการดำเนินเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ตามคำพิพากษาฯ แล้วหรือยัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีบางรายได้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้ว โดยมากกว่า 70% แสดงเจตนาที่จะออกจากพื้นที่ แต่ยังมีอีกประมาณ 30% ซึ่งในส่วนนี้ทราบว่ามีผู้ครอบครองรายใหม่เข้ามา ซึ่งต้องมีการหามาตรการในการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้เกิดความหลาบจำ ซึ่งก็ต้องมีการศึกษาระเบียบข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่าสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใดโดยเฉพาะรายใหม่และจะลงพื้นที่อีกครั้งหลังจากที่ครบตามกำหนดของหมายบังคับคดี ประมาณวันที่ 2 มกราคม 2561

“เท่าที่ตรวจสอบพบว่า รายใหม่ที่เข้ามาครอบครองนั้นได้มีการดำเนินการในช่วงก่อนที่จะมีคำพิพากษาโดยได้แสดงพฤติกรรมเข้ามาครอบครองในที่ดินดังกล่าว และอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 9 รายที่ศาลมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ ส่วนในความเป็นจริงจะเกี่ยวหรือไม่อย่างไรตนก็มิอาจทราบได้ แต่หากวันที่ 2 มกราคม 2561 มีการลงพื้นที่และพบมีผู้บุกรุกอยู่ก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาจัดการขั้นเด็ดขาด ทั้งส่งเรื่องให้ดีเอสไอและคัดค้านการประกันตัว เพราะไม่เช่นนั้นที่ทำมาก็สูญเปล่า และขณะนี้ก็มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ครอบครองรายใหม่แล้วประมาณ 4-5 ราย ซึ่งมีการประกันตัวออกมาและเชื่อว่าน่าจะเป็นนอมินีไม่ใช่ผู้ครอบครองที่แท้จริง” นายมาแอน กล่าว