ข่าว

โหนกระแส สร้างบ้านที่ดินคนอื่น โดนติงหนัก ไม่เป็นกลาง-บีบผู้เสียหาย

ดราม่าเทปรายการโหนกระแส สร้างบ้านบนที่ดินคนอื่น เจ้าของที่ คนสร้าง คนดูถล่มคอมเมนต์หนัก ไม่เป็นกลาง คล้ายบีบให้ผู้เสียหายยอมความ วิจารณ์สนั่น งงมากจริงๆ ปกติรายการจะช่วยผู้เสียหาย แต่วันนี้ถูกบีบให้ยอม บีบให้เสียเปรียบทุกประตู

โหนกระแสเที่ยวนี้เจอดราม่าหนัก เมื่อล่าสุดเทปรายการ “มาไง?? บ้านปริศนา 2 หลังโผล่ในที่ดิน เจ้าของที่เซ็งถูกค่าปรับอีกเป็นแสนทั้งที่ไม่ได้ปลูกบ้าน” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งนำเสนอประเด็น ที่มีหญิงสาวรายหนึ่งไปทำการซื้อที่ดินแล้วก่อสร้างบ้านก่อนที่ต่อมาจะทราบว่า ไปสร้างบผิดแปลง ปลูกบ้านบนที่ดินคนอื่นถึง 2 หลังแถมติดประกาศขายจนต่อมาเจ้าของที่ทราบเรื่องตอนกรมที่ดินสั่งหยุดก่อสร้าง แต่ส่งเอกสารมาเรียกเก็บค่าปรับกับเจ้าของที่ให้เหตุผลก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยรายการได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ คุณไพพรัตน์ เจ้าของที่ดิน คุณเกญชญา คนไปสร้างบ้านบนที่ดินคนอื่น และ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน

โดยเริ่มมาในรายการเปิดด้วยการให้ คุณเกญชญาหญิงสาวที่ได้ไปสร้างบ้าน 2 หลังบนที่ดินคนอื่นชี้แจงถึงประด็นของเรื่องราวปมปัญหาที่เกิดน โดยเธอก็เล่าว่า มีพี่ที่รู้จักกันเอาที่มาขาย ซื้อเสร็จก็ไปเดินเรื่องขอรังวัตรที่ดิน แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดก็เลยเอาเอกชนไปรังวัดจึงทราบว่า ได้ซื้อที่ผิดแปลง แต่ตอนนั้นก็เริ่มการก่อสร้างบ้านไปแล้ว 50-60% โดยซื้อที่มาในราคา 3 แสนบาทหวังว่าซื้อเสร็จเตรียมจะทำบ้านขาย

คุณเกญชญา ยืนยันในรายการว่า เมื่ออทราบว่าล้ำที่คนอื่นก็หยุดการก่อสร้างทันทีและได้พยายามติดต่อเจ้าของที่ไกล่เกลี่ยมาโดยตลอด

โหนกระแส เจ้าของที่ดิน
ภาพ รายการโหนกระแส

ฟังมุมเจ้าของที่ดิน เล่าวันไปเห็นบ้าน 2 หลังสร้างบนที่ตัวเอง

ด้าน คุณไพรัตน์ เจ้าของที่ดินได้โอกาสเล่าในมุมของตัวเองในฐานะเจ้าของโฉนดที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ระบุ วันที่กรมที่ดินให้ไปรังวัตรพื้นที่ข้างเคียงเมื่อขเ้าไปในที่ๆ ของตัวเองก็ต้องตกใจเพราะไปพบว่ามีบ้านมาสร้างอยู่บนที่ดินของตัวเองถึง 2 หลัง

“ที่ซื้อตั้งแต่ปี 57 ผมก็ดูมาตลอด จะมีป้าคนหนึ่งอยู่แถวพื้นที่ ผมก็ให้แกปลูกผัก ปลูกมะเขือ ทำประโยชน์มาเรื่อย ที่ไม่รก มีช่วงโควิดระบาดแรกๆ 2-3 เดือน ไม่ได้เข้าไปดู” คุณไพรัตน์ เจ้าของที่ดิน ระบุ

ไพรัตน์ เจ้าของที่ดิน
ภาพ รายการโหนกระแส

ชายเจ้าของที่เล่าต่อว่า ต่อมาประมาณกลางปี 64 มีหนังสือกรมที่ดินให้คุณไพรัตน์ไปชี้แนวเขต เพื่อรังวัดที่ดินข้างเคียง ตามเวลานัดหมาย 10 โมงเช้า วันที่ 13 ธ.ค. 64 เข้าไปในที่ดินของตัวเองแล้วเห็นบ้าน 2 หลัง ก็ตกใจ

ต่อมาเมื่อทราบว่า บ้านทั้งสองหลังดังกล่าวสร้างอยู่บนที่ที่ผิดแปลง เจ้าหน้าที่ที่ทำการรังวัดที่ผู้รับเหมาคนรู้จักของฝั่งหญิงที่มาสร้างบ้านได้จ้างมาชี้แนวเขตแต่ละคน ทางเจ้าหน้าที่รังวัดจึงโทรตามเจ้าของโครงการให้มาพูดคุยเพื่อชี้แจง เพราะตอนทำรังวัดเจ้าของโครงการไม่ได้เข้ามา จากนั้นเจ้าของโครงการเข้ามากับเจ้าหน้าที่ ผอ.กองช่างเทศบาล มีการพูดคุยกัน ทางเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งเจ้าของโครงการว่าปลูกผิดแปลง เมื่อถูกถามว่ามีการแจ้วงความดำเนรนิคดีหรือไม่ เจ้าของที่คุณไพรัตน์ ระบุ่วา ได้ไปแจ้งความไว้เมื่อเดือนธันวาคม แต่กว่าจะรับแจ้งความ ศาลใช้เวลา 3 เดือน

มุมมอง อัยการปรเมศวร์ ถ้าจะแลกที่ เรามีที่ให้แลกมั้ย

หลังจากที่คู่กรณีเริ่มเล่าปมเหตุมาทั้งหมด อ.ปรเมศวร์ ได้ให้ความเกห็นในข้อกฎหมายโดยถอดเป็นคำพูดได้ดังนี้

“ถือว่าสร้างผิดทั้งหลัง คุณไพรัตน์มีสิทธิ์ที่จะได้บ้านหลังนี้ และใช้ราคาเฉพาะส่วนที่เพิ่ม หรือถ้าคุณไพรัตน์ไม่ได้ประมาทให้คนอื่นมาสร้าง คุณไพรัตน์จะสั่งให้เขารื้อก็ได้ นี่คือสิทธิคุณไพรัตน์ เพราะคุณนิดไม่ได้รุกล้ำแค่บางส่วน แต่รุกล้ำทั้งแปลง หลักกฎหมายเป็นอย่างนั้น สมมติที่ดินราคาล้านนึง สร้างไป 6-7 แสน”

ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม
ภาพ รายการโหนกระแส

“แต่พอใครมาดูปุ๊บที่ดินเพิ่มขึ้นมา 1.2 ล้าน เขาใช้มูลค่าที่เกินจากที่ดิน 2 แสนให้กับผู้สร้าง แต่บ้านกลายเป็นของเขา หลักกฎหมายเขียนไว้แบบนี้ คำถามที่สอง คุณไพรัตน์ประมาทมั้ยที่ปล่อยให้เขามาสร้าง ตรงนี้น่าสนใจ มันมีแนวพิพากษาฎีกาว่าถ้าประมาท เช่น ไม่มีแนวรั้ว แล้วคนอื่นเขาสร้าง เรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนไปอีกมุมนึง”

“หลักกฎหมาย ไปสร้างโรงเรือนในที่คนอื่น เจ้าของที่คือเจ้าของโรงเรือน แต่เจ้าของที่ต้องใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นให้กับคนที่สร้าง แต่มีข้อต่อไปว่าถ้าเขาไม่ได้ประมาทเลินเล่อ แล้วเราไปสร้าง แบบนี้เขาได้เงินฟรี ถ้าไม่ประมาทเขาสั่งรื้อได้ แต่ถ้าเขาประมาทเลินเล่อ ยังรื้อไม่ได้ ที่เหลือก็อยู่ที่การเจรจา ถ้าจะแลกที่ เรามีที่ให้แลกมั้ย”

“หลักกฎหมาย ไปสร้างโรงเรือนในที่คนอื่น เจ้าของที่คือเจ้าของโรงเรือน แต่เจ้าของที่ต้องใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นให้กับคนที่สร้าง แต่มีข้อต่อไปว่าถ้าเขาไม่ได้ประมาทเลินเล่อ แล้วเราไปสร้าง แบบนี้เขาได้เงินฟรี ถ้าไม่ประมาทเขาสั่งรื้อได้ แต่ถ้าเขาประมาทเลินเล่อ ยังรื้อไม่ได้ ที่เหลือก็อยู่ที่การเจรจา ถ้าจะแลกที่ เรามีที่ให้แลกมั้ย”

“ถ้าไม่ได้ประมาท สั่งให้รื้อได้เลย ถ้าเจ้าของที่ดิน ไม่ได้ประมาทมีอำนาจให้รื้อได้เลย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ประมาทหรือไม่ประมาท มันมีรั้วแสดงอาณาเขตหรือไม่”

ทั้งนี้ ในรายการ อัยการอาวุโส มีการพยายามแนะนำใมห้คู่กรณี ตกลงหาทางออกที่ดีที่สุด โดยช่วงหนึ่งนักกฎหมายอาวุโวมีการกล่าว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ ณ เวลานี้ ต้องไปตรวจสอบว่าพอจะมีการแลดที่ดินกันได้หรือไม่ หรือเสนอเงินในการซื้อบ้านสองหลังยังไงได้บ้าง ราคาประเมินอยู่ที่ 3-4 แสนบาท แต่คุณไพรัตน์ ขอ 2 ล้าน ล่าสุดลดมา 1.2 ล้านบาท ก็ยังตกลงกันไม่ได้ อ.ปรเมศวร์ จึงถามว่าจะมีทางไหนหาทางออกร่วมกันได้หรือไม่ ก่อนที่ คุณไพรัตน์ เจ้าของที่ดินจะตอบชัดเจนอีกครั้งว่า ตัวเอสเองนั้นอยากได้ที่คืน ไม่ได้อยากได้บ้าน

เมื่อมาถึงช่วงท้านรายการเมื่อการถามว่าพอจะมีแนวทางตกลงกันได้บ้างหรือไม่นั้น นาย
ไพรัตน์ เจ้าของที่กล่าวว่า ถ้าเรื่องซื้อไว้ทำประโยชน์ของตน ตนก็ต้องเลือกที่จะทำประโยชน์ได้มากที่สุดก็อาจจ่ายมูลค่าที่ดินเพิ่มให้คู่กรณีไป ส่วนข้อเสนออื่นไม่ตกลงด้วยเพราะแเดิมทีตั้งใจเอาไว้ทำประโยชน์ เอาไว้กินยามแก่

ด้าน อ.ปรเมศวร์ กล่าวสรุปว่า คดีสร้างบ้านบยบนที่ดินคนอืน่นนี้ก็คงต้องเดินตามกฎหมายอย่างเดียวที่กำหนดว่าสิทธิเป็นแบบนี้ เมื่ออัยการอาวุโสถูกถามว่า มีโอกาสที่เจ้าของที่ดินคือ คุณไพรัตน์ จะต้องเอาบ้านสองหลังไว้และจ่ายเงินเป็นแบบนี้หรือไม่ คำตอบของนักกฎหมายก็บอกว่าถ้าไม่เอาไว้ใช้ก็ต้องรื้อถอนออกจากนั้นจ่ายเงินแล้วก็ทุบทิ้ง เรื่องก็จะจบแค่นั้น

ด้านความเห็นชาวเน็ต จบเทปเจ้าของที่ถกกันวุ่น ไม่เป็นกลาง

ทั้งนี้ หลังจบเทปสัมภาษณ์ชี้แจงกรณีสร้างบ้านผิดแปลงบนที่ดินคนอื่น ปรากฏ โลกโซเชียลต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เทปดังกล่าวในวันนี้น้อย่างหนัก บางคนฟาดความเห็นแรง วันนี้รายการไม่เป็นกลางคล้ายบีบผู้เสียหายให้ยอมความทั้งๆ ที่ดินของตัวเองโดนบุกรุก

ดราม่าโหนกระแสเทปเจ้าของที่ดิน
ภาพ คอมเมนต์เฟซบุ๊ก โหนกระแส
โหนกระแสสวันนี้
ภาพ คอมเมนต์เฟซบุ๊ก โหนกระแส
รายการโหนกระแส สร้างบ้านทับที่คนนอื่น
ภาพ รายการโหนกระแส
โหนกระแส สร้างบ้านผิดแปลง
ภาพ รายการโหนกระแส
ปัญหาสร้างบ้านบนที่ดินคนอื่น
ภาพ รายการโหนกระแส

ขอบคุณข้อมูล : รายการโหนกระแส

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button