อิตาดาคิมัส! 5 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดน่ากินในกรุงเทพ รสชาติต้นตำรับจากเจแปน
5 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดน่ากินในกรุงเทพ รสชาติต้นตำรับ ทั้งวัตถุดิบสดใหม่และวิธีการปรุงดั้งเดิม จนคุณต้องอยากพูดว่า อิตาดาคิมัส! ก่อนทาน
ก่อนหน้านี้เคยพูดถึงกันไปแล้วกับอาหารญี่ปุ่นแบบชาบูชาบูกับ 5 ร้านชาบูรสเลิศในกรุงเทพ แต่ความพิเศษของรสชาติต้นตำรับแบบญี่ปุ่นไม่ใช่จบลงเพียงแค่นั้น วันนี้จะพาคุณไปสำรวจ 5 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดน่ากินในกรุงเทพ มีตั้งแต่อาหารแบบฉบับดั้งเดิมไปจนฟิวชั่น เตรียมเปิดประสาทสัมผัสให้ดีเพราะน่าอร่อยทุกร้าน กระตุกต่อมน้ำลายให้อยากย่อยอาหาร จนคุณอยากพูดก่อนชิมว่า อิตาดาคิมัส!
5 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในกรุงเทพ
1. Tsu & Nami Japanese Restaurant
Tsu & Nami Japanese Restaurant เป็นร้านอาหารที่แบ่งเป็น 2 โซนชัดเจน ห้อง Tsu เป็นร้านซูชิบาร์และห้อง Nami เป็นร้านเทปันยากิ แต่ช่วงเที่ยงวันเสาร์และอาทิตย์จะเปิดเป็นบุฟเฟต์แบบอะลาคาร์ท รวมทั้ง 2 โซนเข้าด้วยกัน การตกแต่งร้านมีความหรูหราสไตล์ร้านอาหารบนโรงแรม แต่ยังได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน
ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงมาเสิร์ฟ คุณต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าจะมีร้านอาหารคุณภาพระดับนี้นอกญี่ปุ่น ปลาดิบ ซาชิมิ หอยนางรมกับซอสพอนสึ ปูขน King Crab และวัตถุดิบอื่นที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น เมนูขึ้นชื่อแน่นอนว่าเป็นเมนูต้นตำรับจากดินแดนบ้านเกิดของมันอย่างซูชิ อาหารทะเลก็สดใหม่ ไหนจะของหวาน อย่างเค้ก ไอศกรีม โมจิ พุดดิ้ง ที่รอปิดท้ายมื้อได้อย่างน่าประทับใจ
เวลาเปิดทำการ: เปิดให้บริการ 2 ช่วง ช่วงเที่ยงตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19)
ที่อยู่: โรงแรม JW Marriott 4 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
2. Yamazato
ร้านอาหาร Yamazato ให้บริการอาหารแบบ Kaiseki Ryori ซึ่งเป็นอาหารชุดแบบฉบับดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น การเสิร์ฟแต่ละจานจะมีลำดับขั้นตอน พร้อมวัตถุดิบที่มีเฉพาะแต่ละฤดูกาลเท่านั้น เป็นศิลปะในการปรุงที่สะท้อนความบรรจงและประณีตของชาติญี่ปุ่นอย่างมาก ได้รับรางวัล Michelin Plate Restaurant อีกด้วย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok มื้ออาหารนี้จึงไม่ได้มีแต่รสชาติชั้นสูงแต่คุณจะยังได้ชมวิวกรุงเทพขณะทานอาหารอีกด้วย
ร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ ซูชิบาร์ เทปันยากิ และห้องทานอาหารแบบส่วนตัว วัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่ คัดสรรแต่ของขึ้นชื่ออย่างปลาจากตลาดปลาโทโยสุที่โตเกียว พร้อมเมนูให้เลือกทานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Kaiseki Ryori อันขึ้นชื่อ ทานโอมากาเสะปรุงสดเป็นคำ ๆ ต่อหน้าคุณโดยเชฟมากฝีมือ หรือจะเป็นเมนูราเมน ซาชิมิ ทุกเมนูได้ผ่านกระบวนการรังสรรค์ขึ้นมาอย่างมีศิลปะและไม่ได้มีดีเพียงหน้าตา แต่รสชาติก็สุดจะน่าประทับใจ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการ 2 ช่วง ช่วงเที่ยงตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น.
ที่อยู่: The Okura Prestige Bangkok 57 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
3. Zuma
ร้านอาหารอิซากายะ Zuma แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ชั้น G โรงแรม The St. Regis Bangkok มีหลายสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งฮ่องกง ดูไบ อเมริกา อังกฤษ และในไทย มีสาขาที่กรุงเทพและภูเก็ต ด้วยบรรยากาศการแต่งร้านที่ดูหรูหราแต่ก็เป็นมิตร รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้ไปนั่งทานอาหาร พร้อมห้องครัวแบบเปิด สาธิตขั้นตอนการปรุงแต่ละจานให้เห็นกันจะ ๆ มีโซนที่หลากหลายรองรับโอกาสในการทาน มีทั้งห้องทานอาหารส่วนตัว โซนในสวนและบาร์เปิดแบบญี่ปุ่น
มีทั้งคอร์สอาหารแบบ Private Hotel Room Daikoku ราคา 4,800 บาท/คน ซึ่งเชฟจะคัดสรรเมนูอะลาคาร์ทและวัตถุดิบตามฤดูกาลมาเสิร์ฟให้กับคุณ หรือจะเลือกทานอาหารกลางวัน Inari Lunch ก็ได้ ราคา 790 บาท/คน นอกจากอาหารรสชาติต้นตำรับก็ยังมีอาหารแบบฟิวชั่นอีกด้วย เมนูขึ้นชื่ออย่างปลาค็อดดำหมักในมิโซะ 3 วันห่อใบโฮบะก็น่าลอง และยังมีค็อกเทลรสเลิศ ไวน์ แชมเปญ และสาเกให้เลือกได้ตามชอบ
เวลาเปิด-ปิด: ตั้งแต่เวลา 11.30-21.00 น.
ที่อยู่: โรงแรม The St. Regis Bangkok 159 ถนนราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
4. Sushi Ichizu
Sushi Ichizu ให้บริการอาหารตามชื่อร้านเลย นี่คือร้านโอมากาเสะและซูชิที่น่าประทับใจที่สุดอีกหนึ่งร้าน ทั้งมาตรฐานและรสชาติระดับต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น การันตีด้วยรางวัลด้านอาหารมากมายจากสื่อต่าง ๆ ให้บริการโอมากาเสะระดับพรีเมียม โดยเชฟจะปรุงให้คุณทานคำต่อคำ คุณจึงได้ลิ้มรสความสดใหม่และเป็นเลิศของรสชาติอาหารแบบเต็มที่ โดยมีข้อปฏิบัติสำหรับการแต่งกายด้วย เพื่อให้คุณได้เปิดประสาทสัมผัสในรสอาหารโดยไม่ถูกรบกวน ทางร้านจึงขอให้งดใช้น้ำหอม หรือเจลแต่งผมที่มีกลิ่นก่อนมาทานโอมากาเสะที่ร้าน และจำกัดเฉพาะลูกค้าที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเท่านั้น โดยทางร้าน Sushi Ichizu จะเปิดรับที่นั่งจำนวนจำกัด ดังนั้นถ้าปักหมุดไว้แล้วว่าจะไปทานต้องจองไว้ล่วงหน้าก่อนด้วย จะได้ไม่พลาด
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ 17.30 น. และ 20.30 น.
ที่อยู่: 1982 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
5. Jua
ร้านอาหารญี่ปุ่นยากิโทริและบาร์ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในย่านสุดสร้างสรรค์อย่างตลาดน้อย สไตล์การตกแต่งร้านที่เท่แบบไม่ต้องมีอะไรมาก เน้นอาหารสไตล์ทาปาสที่สามารถแชร์กันชิมได้ จะทานกับครอบครัวหรือเฉลิมฉลองกับเพื่อนฝูงก็ได้บรรยากาศที่ดีทั้งหมด มีการสร้างสรรค์เมนูดั้งเดิมอย่างคุชิยากิ ซึ่งเป็นของย่างเสียบไม้ คล้าย ๆ ไก่ย่างยากิโทริ มาเสิร์ฟด้วย และจะทานอาหารให้คล่องคอต้องมีเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีค็อกเทล เบียร์คราฟต์ และไวน์ให้เลือกชิมอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น.
ที่อยู่: 672/49 ซอยเจริญกรุง 28 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
และนี่คือ 5 ร้านอาหารญี่ปุ่นรสต้นตำรับที่คัดสรรมาเพื่อคุณ แม้จะเป็นรสชาติต้นตำรับแต่ก็มีความหลากหลายของเมนูและวิธีการทำ เรียกได้ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งศิลปะ ทั้งด้านวัฒนธรรม กีฬา อาหาร และด้านอื่นอีกมากอย่างแท้จริง
โฆษณาบน The Thaiger
ติดต่อเราเพื่อหารือเกี่ยวกับการโฆษณาและโซลูชั่นที่กำหนดเอง