ข่าวการเมือง

พรรคเพื่อไทย ยืนยันตามเจตนารมณ์เดิม เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15

พรรคเพื่อไทย ยืนยันตามเจตนารมณ์เดิม เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15 พยายามจัดทำร่างใหม่ให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า เข้าวาระให้เร็วที่สุด

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายสรวงศ์ เทียนทอง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ,นายจตุรนต์ ฉายแสง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ,นายกอแก้ว พิกุลทอง ,นางมนพร เจริญศรี นายสุธรรม แสงปทุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงสืบเนื่องจาก คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาเมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 68) ว่าด้วยเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญนั้น

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวมาเพื่อไทยเห็นว่าแม้มีปัญหาอุปสรรคมีขั้นตอนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นและยังเป็นปัญหาถกเถียงกันอยู่ แต่พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ริเริ่ม และติดตามการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาโดยตลอดยังคงยืนยันที่จะดำเนินการในเรื่องการแสวงหาการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป และเมื่อวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วเราเห็นว่าจะดำเนินการดังนี้

ประการที่ 1 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในหมวด 15 ในเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่อาจดำเนินการเป็นประการอื่นได้ โดยรัฐสภาพิจารณาเป็น 3 วาระแล้วนำไปประชามติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (8)

สำหรับคำวินิจฉัยที่ว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่อาจจะทำโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แม้ว่าจะขัดต่อหลักการที่เคยพูดว่าประชาชนมีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ เมื่อคำวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ ก็ยังเห็นว่าอาจจะกระทำโดยการเลือก สสร.โดยทางอ้อม หรือการกระทำโดยรัฐสภามีมติแต่งตั้ง สสร.ไม่ใช่การแต่งตั้งโดยตรง หรือรัฐสภามีมติตั้งกรรมาธิการของรัฐสภาก็ได้ ส่วนจะกระทำโดยวิธีใด เรามีคณะทำงานที่ไปคิดเรื่องนี้ ไตร่ตรองให้รอบคอบและนำเสนอตอนที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15 ต่อสภาในภายหลัง

ส่วนการทำประชามติเนื่องจากการดำเนินการ แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15 และก็ต้องทำประชามติอยู่แล้ว ส่วนปัญหาว่าจะทำประชามติครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 เมื่อไหร่หรือครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จะรวมกันหรือไม่ เราเห็นว่าเรื่องการทำประชามติตามพ.ร.บ.ประชามตินั้น จะกระทำได้ก็ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องไปคิดในเรื่องนี้

ซึ่งการทำประชามติครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 คำถามควรจะมีว่า คำถามที่ 1 คือเห็นชอบว่าสมควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ คำถามที่ 2 เห็นชอบกับหลักเกณฑ์วิธีการสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามรายละเอียดที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนจะถามพร้อมกันหรือไม่ เมื่อไหร่อย่างไรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องไปตัดสินใจในเรื่องนี้

พรรคเพื่อไทยขอยืนยันตามเจตนารมณ์เดิม ว่าจะผลักดัน และเดินหน้าให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด แม้จะยากลำบากก็จะทำอย่างเต็มกำลังและสุดความสามารถ และจะพยายามจัดทำร่างใหม่ให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้าเพื่อที่จะนำเข้าสู่ระเบียบวาระให้เร็วที่สุด

ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่าเมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยก็จำเป็นต้องเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้มีทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิด ช่วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไปในอนาคต ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยินดีและอยากจะแสดงความตั้งใจว่า อยากให้มีการร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เพื่อที่จะช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ซึ่งหากทำได้ก็จะเกิดกระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีองค์กรใดแสดงความต้องการ หรือแสดงความริเริ่มในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการจัดทำประชามติ เราอยากเรียกร้องต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ และรัฐบาลที่กำลังเข้ามาบริหารประเทศ น่าจะมาช่วยกันคิดหาทาง ว่าทำอย่างไรที่จะทำให้การจัดทำประชามติ 2 ครั้ง เอามารวมกันเป็นครั้งเดียวซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลานานและไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ แต่การกระทำเช่นนี้ได้ต้องหารือกันตั้งแต่เรื่องที่จะแก้ไขมาตรา 256 อย่างไร ซึ่งการแลกเปลี่ยนอันนี้เป็นข้อสรุปที่ดีที่จะหาทางออกร่วมกันในรัฐสภา และต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล ที่มีความตั้งใจจริงที่จะทำให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า การทำประชามติเป็นการวัดใจรัฐบาลหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่าอย่าถือเป็นการวัดใจ แต่การจะทำเรื่องนี้ได้ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องไปคิด หลังจากที่เดิมก็ทราบดีว่าความคิดเรื่องนี้ ไม่มี หากเป็นรัฐบาลก็ต้องคิด ว่าจะทำประชามติเมื่อไหร่ และจะทำพร้อมกันสองครั้งหรือไม่ และเมื่อไหร่ ซึ่งต้องเป็นมติคณะรัฐมนตรีและคำนึงถึงระยะเวลา 90 วันด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button