ข่าว

รู้จัก บิ๊กตี๋ พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ ผู้ทำนาย สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดเร็วๆ นี้

รู้จัก บิ๊กตี๋ ประวัติ พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 ทำนาย สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดภายในปี พ.ศ. 2570 ขั้วมหาอำนาจต้องการล้างหนี้

พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ (ชื่อเล่น: “บิ๊กตี๋”) เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 ที่เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุ 61 ปี เติบโตมาในครอบครัวประกอบธุรกิจโรงหล่อพระพุทธรูป แต่งงานกับ พลตรีหญิงวัลลภา กิติญาณทรัพย์

การศึกษา

  • ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น: ศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ในกรุงเทพมหานคร
  • ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย: ศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 (ตท.22) รุ่นเดียวกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ (บิ๊กบี้) อดีตผู้บัญชาการทหารบก
  • การศึกษาทางทหารเพิ่มเติม: ได้รับทุนไปศึกษาต่อด้านการทหารที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังสำเร็จการศึกษาเตรียมทหาร

เส้นทางชีวิตราชการ

สายทหารม้า: พล.อ.รังษีเลือกเหล่าทหารม้า เริ่มรับราชการที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยรถถังกองพันรถถัง ตั้งแต่เริ่มรับราชการจนถึงเมื่อมียศพันเอก มีประสบการณ์ในหน่วยยานเกราะและกำลังรบภาคพื้นดินตลอดเส้นทางการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรตอนต้นจนถึงระดับอาวุโส

ขั้นผู้บังคับบัญชา: ต่อมาเมื่อมียศ พลตรี พล.อ.รังษีได้รับตำแหน่งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ควบคู่กับบทบาท ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงในพื้นที่ 25 จังหวัดภาคกลางของไทย

หน้าที่ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ทำให้ พล.อ.รังษี ได้ทำงานใกล้ชิดสนับสนุนภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ ในยุคนั้นด้วย

ผู้อำนวยการช่อง 5: เมื่อมียศ พลโท พล.อ.รังษีได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 ได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ (ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกและประธานบอร์ดช่อง 5) ที่เลือกเพื่อนรักอย่าง “บิ๊กตี๋” มานั่งในตำแหน่งนี้ พล.อ.รังษี เป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนร่วมรุ่นตั้งแต่สมัยเรียน จปร. ว่าชอบสรุปข่าวสารการเมืองและวิเคราะห์สถานการณ์ให้เพื่อนฟังจนได้รับฉายา “รังษี หยุ่น” (พ้องกับชื่อของผู้บริหารสื่อชื่อดัง)

หลังจากปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการช่อง 5 อยู่ประมาณ 1 ปี 5 เดือน พล.อ.รังษีได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการในช่วงที่มียศ พลเอก ซึ่งถือเป็นการเกษียณอายุราชการล่วงหน้าก่อนกำหนด มีผลอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565

ตำแหน่งสำคัญในกองทัพและการเมือง

หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ: ปัจจุบัน พล.อ.รังษีดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568 เป็นต้นมา

พรรคนี้เดิมก่อตั้งในชื่อ “พรรคเส้นด้าย” และได้รีแบรนด์เปลี่ยนชื่อพรรคพร้อมทั้งเลือก พล.อ.รังษีเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยชูภาพลักษณ์นายทหารอาชีพที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานบ้านเมือง และประกาศนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยภายใต้แนวคิด “THE FINAL EXIT” หรือ “ทางออกสุดท้าย” เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ

ปัจจุบันพรรคเศรษฐกิจถือเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กที่เน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการบริหารเชิงกลยุทธ์ตามแนวทางที่ได้ประกาศไว้

ผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5: พล.อ.รังษีเคยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ในระหว่างดำรงตำแหน่ง ได้ริเริ่มแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาองค์กรสื่อของกองทัพ รวมถึงการจับมือกับภาคเอกชนเพื่อสร้างรายได้เสริมและปรับปรุงผังรายการให้ทันสมัย

ตำแหน่งในกองทัพ: พล.อ.รังษีเคยดำรงหลายตำแหน่งสำคัญในสายงานทหาร ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 (ขณะมียศพลตรี) ทำหน้าที่ดูแลด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายในประเทศ เคยเป็น ผู้บังคับหน่วยรถถัง กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ในช่วงรับราชการยศชั้นนายพัน ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญระดับหน่วยรบยานเกราะในพระองค์

บิ๊กตี๋ พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ ประวัติ
รังษีในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 (ภาพจาก : วิกิพีเดีย)

สายตาเฉียบแหลม วิเคราะห์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา

พล.อ.รังษี แฉ “ผู้มีอำนาจ” สั่งห้ามทหารไทยยิงสวนกัมพูชา

พล.อ.รังษี เปิดเผยข้อมูลผ่านรายการ “เรื่องใหญ่รายวัน” ทางช่อง ONE อ้างถึงช่วงปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อ 24 กรกฎาคม ว่า ว่ามีผู้มีอำนาจในประเทศไทยโทรศัพท์สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 ไม่ให้ต่อสู้กับทหารกัมพูชาในช่วงแรกของการสู้รบ

พล.อ.รังษี ยืนยันว่าได้ตรวจสอบข้อมูลนี้แล้ว เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ใบสั่งนี้ทำให้ทหารในพื้นที่รู้สึกอึดอัดใจ แต่สุดท้าย แม่ทัพภาคที่ 2 ตัดสินใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะคำนึงถึงอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เเชื่อว่าการมี “ไส้ศึก” ในลักษณะนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้นายฮุน เซน มีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อไทย

นอกจากนี้ พล.อ.รังษี ยังกล่าวถึงการหยุดยิงในครั้งนั้นว่า เป็นการหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้กำหนดเวลาเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้าม เป้าหมายของกัมพูชาในการสร้างสถานการณ์ครั้งนั้น คือต้องการเปลี่ยนแปลงเส้นเขตแดนทางบกทั้งหมด มีปลายทางอยู่ที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องไปถึงพื้นที่เกาะกูด

ในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ พล.อ.รังษีเชื่อว่านายฮุน เซน ได้เปลี่ยนไปรับข้อเสนอที่ดีกว่าจากสหรัฐอเมริกา หลังจากประเมินแล้วว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางทหารต่อไทยได้ และสหรัฐฯ เองก็ต้องการเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคนี้เพื่อปิดล้อมจีน

เพื่อป้องกันปัญหา ไส้ศึก และรักษาอธิปไตยของชาติ ประเทศไทยจะต้องไม่ยอมให้มีฐานทัพของชาติมหาอำนาจใดๆ เข้ามาตั้งในประเทศอย่างเด็ดขาด

พล.อ.รังษี ชี้ สงครามโลกครั้งที่ 3 จ่อปะทุ ก่อนปี 2570 เตือนภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยขั้นรุนแรง ดันประเทศมหาอำนาจ “รีเซ็ตหนี้” ครั้งใหญ่

ในการสัมภาษณ์กับช่อง PPTV ทำนายว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 มีแนวโน้มจะปะทุขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2570 มีแกนนำคือสหรัฐอเมริกา กับกลุ่มจีน-รัสเซีย พลเอกรังษีชี้ว่าสงครามครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงการซ้ำเติมสถานการณ์ แต่เป็นการ รีเซ็ต หนี้สินทั่วโลกครั้งใหญ่

พลเอกรังษี วิเคราะห์ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า Great Depression ซึ่งจะเป็นวิกฤตที่หนักที่สุดในรอบ 130 ปี หนี้ของรัฐบาลทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 300 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก (GDP) อยู่ที่ 100 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น หนี้สูงกว่ารายได้ถึง 3 เท่า

หนี้ของสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวคิดเป็น 12% ของหนี้ทั่วโลก และมีพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกรกฎาคมมูลค่าถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าสหรัฐฯ จะไม่สามารถจ่ายคืนได้ พลเอกรังษีมองว่าสถานะทางการเงินของสหรัฐฯ ในทางบัญชีถือว่า “ล้มละลาย” แล้ว ค่าเงินดอลลาร์ด้อยค่าลง และพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มไม่มีคนซื้อ แม้จะให้ผลตอบแทนสูงก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องเข้าซื้อพันธบัตรของตัวเองในการประมูลล่าสุด

จีนได้เจรจาเป็นการลับกับซาอุดีอาระเบีย เพื่อยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายน้ำมัน กลุ่ม BRICS (ซึ่งจีนและรัสเซียเป็นแกนนำ) ได้พัฒนาระบบการโอนและชำระเงินของตนเองขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และถูกกว่าระบบ SWIFT ที่ชาติตะวันตกเคยใช้ในการควบคุมและคว่ำบาตรคู่แข่งทางเศรษฐกิจ เช่น กรณีที่รัสเซียถูกยึดเงินสำรองระหว่างประเทศ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านระบบ SWIFT ระบบใหม่ของ BRICS นี้จะใช้เงินหยวนเป็นหลัก

พลเอกรังษี อธิบายว่าสงครามในอดีต เช่น สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ล้วนเกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และเป็นกลไกให้มหาอำนาจล้างหนี้สิน เช่นเดียวกับที่อำนาจเปลี่ยนผ่านจากอาณาจักรออตโตมันเป็นจักรวรรดิอังกฤษ และจากอังกฤษเป็นสหรัฐฯ ในปัจจุบัน สหรัฐฯ อยู่ในฐานะมหาอำนาจมาแล้ว 80 ปี แต่กลับประเมินพลาดที่ปล่อยให้จีนเติบโต ขณะนี้ เศรษฐกิจของรัสเซียและจีนแข็งแกร่งกว่า และอาวุธก็ทัดเทียมกัน ทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถควบคุมโลกเหมือนในอดีตได้

แนวคิด “รีเซ็ต” หนี้สินนี้ยังรวมถึงการสร้างสกุลเงินดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีขึ้นมา เช่น Bitcoin ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 120,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1 Bitcoin หากมีการนำ Bitcoin มาใช้ อาจทำให้หนี้ของสหรัฐฯ หายไปได้ถึง 100,000 เท่า ซึ่งเป็นวิธีการรีเซ็ตระบบเงินที่ดอลลาร์ได้ล้มเหลวลงแล้ว แต่เจ้าหนี้ของสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับการรีเซ็ตเช่นนี้ หากสหรัฐฯ ยังไม่ได้เป็น “เจ้าโลก” อย่างเต็มตัว

พลเอกรังษีเน้นย้ำว่า ในสถานการณ์โลกเช่นนี้ ผู้นำของประเทศไทย ทั้งคนปัจจุบันและคนต่อไป จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างยิ่ง โดยจะต้องมีคุณสมบัติ ประเมินสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ กล้าตัดสินใจ มีความยืดหยุ่น พร้อมปรับแผนได้ทันทีหากแผนที่วางไว้ผิดพลาด ไม่ยึดติดกับอัตตา

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx