หากเกิดศึกชายแดน ใครบ้างต้องเป็น “กำลังพลสำรอง” รด.ปี 3 มีเกณฑ์ถูกเรียก?

เรียน รด. จบแล้ว สบายใจได้จริงเหรอ กองทัพชี้ชัด ถ้าชาติต้องการตัว ทั้งทหารเกณฑ์ปลด-นศท.ปี 3 ขึ้นไป อยู่ในข่ายถูกเรียกเข้ากรม ต้องมารายงานตัว
ท่ามกลางข่าวสารบ้านเมืองที่อาจจะมีเรื่องให้ลุ้น ๆ กันอยู่บ้างบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือในยามที่ประเทศชาติต้องเจอสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ คำถามสำคัญที่หนุ่ม ๆ หลายคน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการฝึก วิชาทหาร หรือ รด. (นักศึกษาวิชาทหาร) มาแล้ว อาจจะกำลังสงสัยกันอยู่ว่า เอ๊ะ เรียน รด. จบแล้วเนี่ย เรายังมีโอกาสถูกเรียกตัวกลับไปรับราชการทหารในฐานะ กำลังพลสำรอง อีกหรือเปล่า? วันนี้มีคำตอบมาให้แบบชัด ๆ ครับ
ใครบ้างที่เข้าข่าย กำลังพลสำรอง หรือ ทหารกองหนุน
ตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร พุทธศักราช 2560 และข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยกิจการกำลังพลสำรอง พุทธศักราช 2559 ได้นิยามความหมายของ กำลังพลสำรอง หรือ ทหารกองหนุน ไว้ครอบคลุมบุคคลสองกลุ่มหลัก
กลุ่มแรก
- ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (รด.) ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป และได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนกองประจำการจนกระทั่งปลดเป็นทหารกองหนุนตามขั้นตอน
กลุ่มที่สอง
- ผู้ที่เคยเป็นทหารกองประจำการ หรือ ทหารเกณฑ์ และได้ปลดประจำการเมื่อรับราชการครบกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ถือเป็นกำลังสำคัญสำรองของชาติ

ถ้าถึงคราวจำเป็นจริงๆ เขาเรียกตัวกันยังไง?
สำหรับขั้นตอนการเรียกกำลังพลสำรองนั้น เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงครามหรือเกิดความไม่สงบเรียบร้อยจนถึงขั้นต้องระดมสรรพกำลัง กระทรวงกลาโหมมีอำนาจในการออกคำสั่งระดมพลเพื่อเสริมกำลังพลประจำการที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่
กระบวนการจะเริ่มต้นจากผู้บังคับการจังหวัดทหารบกในแต่ละพื้นที่ แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นภูมิลำเนาของกำลังพลสำรองเป้าหมาย จากนั้นจะมีการออกหมายเรียกพล หรือเอกสาร ตพ.15 ส่งไปยังตัวบุคคลผู้ถูกเรียกเพื่อให้มารายงานตัวตามสถานที่และวันเวลาที่กำหนดในหมาย

ได้หมายเรียกพลแล้วทำเฉยเสี่ยงคุก
การไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกพล หรือไม่เข้ารับราชการทหาร หรือไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าภารกิจในภาวะฉุกเฉินนั้นจะเสร็จสิ้น จะถือว่ากำลังพลสำรองคนนั้นมีเจตนา “หลีกเลี่ยงการรับราชการทหาร” ซึ่งแน่นอนว่า มีความผิดตามกฎหมายนะครับ
ดังนั้น สรุปง่าย ๆ ก็คือ ผู้ที่เรียน รด. จบตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 และปลดเป็นทหารกองหนุนแล้ว ก็มีสถานะเป็น กำลังพลสำรอง เช่นเดียวกับพี่ ๆ ทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วนั่นเอง และมีโอกาสถูกเรียกตัวกลับเข้ารับราชการทหารได้เหมือนกัน หากประเทศชาติตกอยู่ในภาวะจำเป็นจริง ๆ การเข้าใจในระเบียบและหน้าที่ของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชายไทยทุกคนครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บ.เบียร์ กัมพูชา บริจาค 1.7 ล้าน ให้ทหารเขมร รักษาชายแดน-โชว์สปิริตรักชาติ
- กัมพูชา เบี้ยวประชุม JBC เจรจาไทย จ่อส่งเรื่องพื้นที่ 4 แห่ง ขึ้นศาลโลก
- หมอของขวัญ ฟาดเดือด ณวัฒน์ เชิญแบน เป็นสปอนจ่ายล้านกว่า ยินดีกับคนอื่นไม่เป็น ปีหน้าคงขอบาย
อ้างอิง : หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: