ย้อนรอย แชร์แม่ชม้อย หลอกคนลงทุนแชร์น้ำมัน เงินหมุน 1.6 หมื่นล้าน
พาไปย้อนรอย แชร์แม่ชม้อย มหากาพย์แชร์ลูกโซ่ค้าน้ำมันในตำนาน เงินหมุนเวียนกว่า 1.6 หมื่นล้าน ถูกสั่งจำคุกแสนปี พบเงินและทองคำซ่อนไว้เพียบ
ท่ามกลางประเด็นแชร์ลูกโซ่ Forex 3D ที่กำลังเป็นข่าวดังในตอนนี้ เราจะพาทุกคน ย้อนรอยอดีต แชร์แม่ชม้อย มหากาพย์แชร์ลูกโซ่ในตำนานเมื่อ 40 ปีก่อน จุดเริ่มต้นจากพนักงานตัวเล็ก ๆ สู่ความปั่นป่วนทางการเงิน มูลค่าความเสียหายนับ 1.6 หมื่นล้าน
เมื่อช่วงปี 2525 หรือราว 40 ปีก่อน ได้เกิดการกระจายข่าวลือเรื่องการลงทุนที่ได้รับผลกำไรสูง จนกลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งชาติ โดยในตอนนั้นจุดเริ่มต้นเกิดจาก นางชม้อย ทิพย์โส ชาวจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นพนักงานคนหนึ่งขององค์การน้ำมันเชื้อเพลิง
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ชม้อย เริ่มต้นขึ้นเมื่อนางชม้อยได้ร่วมลงทุนค้าน้ำมันกับเพื่อน จนเห็นช่องว่างในการทำกำไร จึงเริ่มคิดหาวิธีในการชักชวนผู้อื่นมาลงทุนต่อ แต่ในการดึงคนมาลงทุนในครั้งนั้น ชม้อยได้ใช้วิธีการหลอกลวงคน ด้วยการอุปโลกบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งขึ้นมา เพื่ออ้างว่าตนทำการค้าน้ำมันทั้งในและนอกประเทศ
ปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด คือชื่อบริษัทที่ชม้อย ทิพย์โส ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้บังหน้าในการดึงดูดนักลงทุน ซึ่งได้เกิดการเชื้อเชิญให้มีการลงเงินแบบปากต่อปาก ซึ่งนางชม้อยใช้อุบายในการเปิดกู้ยืมเงิน โดยเทียบเงินลงทุนเป็นรถบรรทุกขนส่งน้ำมัน ระบุว่ารถคันหนึ่งมีราคา 160,500 บาท หากผู้ใดลงทุนจะได้รับเงินตอบแทน 12,000 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 6.5 % ต่อเดือน และ 78 % ต่อปี
นอกจากนี้นางชม้อยยังได้มีกลยุทธ์ ในการหักเงินเพิ่มอีกร้อยละ 4 ของเงินทั้งหมด เพื่อเป็นค่าเก็บภาษีและยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเด็กปั๊มอีกคนละ 100 บาท ก่อนจะเริ่มพัฒนาแนวคิด ดึงดูดนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินก้อนใหญ่ ให้ร่วมลงทุน โดยใช้หลักการคิดตามล้อรถบรรทุก ล้อละ 40,000 บาท แล้วอ้างจะให้ผลตอบแทน 2,600 บาทต่อเดือน
ธุรกิจของชม้อย ทิพย์โส เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีผู้คนทั่วประเทศ ในทุกสายอาชีพค่อย ๆ ทยอยนำเงินมาลงทุนมากขึ้น เนื่องจากหลายคนเชื่อใจเพราะมีชื่อบริษัท บวกกับคนที่ลงทุนก่อน ๆ ยังได้เงินตามสัญญา อีกทั้งชม้อยยังทำงานในองค์การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
จนกระทั่งเรื่องราวเริ่มบานปลาย เพราะธุรกิจแชร์ลูกโซ่จะมีลักษณะแบบงูกินหาง เงินลงทุนรายใหม่จะนำไปจ่ายคืนให้รายเก่า ทำให้ต้องมีการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ส่งผลให้ชื่อเสียงของแม่ชม้อยไปเข้าหูคนในแวดวงรัฐบาลและตำรวจ จนเริ่มมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในอีกไม่กี่ปีหลังจากนั้น
เจ้าหน้าที่เริ่มเสาะหาเบาะแสของธุรกิจแชร์แม่ชม้อยมากขึ้น จนได้พบว่า แม่ชม้อยได้ทำการเปิดบัญชีเงินฝากไว้อีกหลายบัญชี โดยเงินทั้งหมดที่มีการลงทุน จะทยอยไหลเข้าบัญชีของนางชม้อยและพวก ไม่ได้มีการนำไปใช้ค้าน้ำมันในบริษัทที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
การสอบสวนดำเนินไปได้ไม่นาน ก็ได้มีการยื่นรายชื่อผู้เสียหายที่โดนเบี้ยวเงินปันผลเกือบ 3,000 รายชื่อให้แก่ตำรวจ จนทำให้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติม พบมีเงินสะพัดจากแชร์แม่ชม้อยมากถึง 1.6 หมื่นล้าน โดยแบ่งเป็นเงินที่ถูกเบี้ยวสูงถึง 4.8 พันล้านบาท รวมมีผู้เสียหายทั้งสิ้นกว่า 1.5 หมื่นราย
ในระหว่างที่ทำการไต่สวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบทรัพย์ของนางม้อย ทิพย์โสและพวก ก่อนจะพบว่าเงินสดจำนวนหลายล้าน ถูกฝังใส่ลังไว้ ในขณะเดียวกันก็มีทรัพย์สิน ทั้งทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ เพชร และอัญมณี มากมาย ถูกซ่อนเอาไว้อีกเพียบ
จากเหตุการณ์การฉ้อโกงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ศาลตัดสินให้แม่ชม้อยและพวก ต้องโทษจำคุกรวม 154,005 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมจะต้องคืนเงินให้ผู้เสียหาย 510,584,645 บาท และดอกเบี้ยอีกถึง 15% ต่อปี
ทว่าตามกฎหมายไทย ได้มีการระบุโทษสูงสุดไว้ไม่เกิน 20 ปี ทำให้แม่ชม้อยและพวกต้องเข้าห้องขังตามจริงแค่ 20 ปีเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากจำคุกไปได้เพียงแค่ 7 ปี นางชม้อย ทิพย์โส ก็ได้รับการพระราชทานอภัยโทษออกมาในที่สุด
แม้การตัดสินคดีแชร์แม่ชม้อยจะจบลงไปแล้ว แต่ดูเหมือนใครหลายคนจะยังไม่พอใจกับโทษที่แม่ชม้อยได้รับ อีกทั้งยังมีหลายฝ่ายเชื่อว่า ยังคงมีทรัพย์สินที่สืบไม่ได้ ซ่อนอยู่อีกมหาศาล และนั่นนับเป็นการปิดมหากาพย์แชร์ลูกโซ่ค้าน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย.