หนุ่มตรังฉุนแฟนขอแยกทาง บุกถึงบ้านนั่งปรับทุกพี่แฟน ก่อนชักปืนยิงขู่ แต่พลาด เจ็บ 2
หนุ่มตรังฉุนแฟนสาวคบกัน 5 เดือนติดต่อไม่ได้ บุกหาถึงบ้านแต่ไม่พบ จึงนั่งกินเบียร์กับพี่ชายแฟนสาว ก่อนพูดจาไม่เข้าหูชักปืนยิงขู่แต่พลาดเจ็บ 2 ราย ตร.ปิดล้อมจับกุมตัวได้ขณะหลบหนี ค้นรถเจออาวุธปืน กระสุนและยาเสพติดเพียบ
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.( 10 มิ.ย.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้รับแจ้ง จาก นางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ว่า ถูกแฟนหนุ่มบุกเข้าภายในบ้านและใช้อาวุธปืนยิงใส่บุคคลภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และมีคนอยู่ภายในบ้านอีกหลายคน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 135/104 หมู่บ้านปฎักวิลล่า ม.4 ถ.ปฏัก ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ฉลอง ร่วมตรวจสอบในเบื้องต้น แต่เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และมีคนอยู่ในบ้านเกรงจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังสนับสนุนจาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมตรวจสอบ
ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง แฟนหนุ่มของนางสา เพ็ญนภาที่เพิ่งคบหากัน ได้มีปากเสียงและใช้อาวุธปืนยิงขู่ ถูกนายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ อายุ 40 ปี (พี่ชายของน.ส.เพ็ญนภา) กระสุนถูกที่ขา และ นายพงศกร เอี่ยมสำราญ 22 ปี (ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของน.ส.เพ็ญนภา) ถูกกระสุนที่แขน ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จึงกระจายกำลังปิดล้อมที่บ้านหลังดังกล่าว และกำลังเข้าเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ นายพิมลศักดิ์ ออกมามอบตัว แต่ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้พยายามนำตัว นายศักดิ์สิทธิ์ ผู้บาดเจ็บ ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาลแต่เมื่อขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน แต่ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่จึงขับรถย้อนเข้าไปในบ้านใหม่ ต่อมาไม่นานผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ โตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ ทะเบียน กต 1895 ภูเก็ตพา นายศักดิ์สิทธิ์ และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากบ้านอีกครั้งเพื่อหลบหนี แต่ระหว่างนั้นมีรถยนต์ของประชาชนขับเข้ามาและขวางทางออก ทำให้รถของ นายพิมลศักดิ์ ออกไม่ได้ จึงโมโหใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของประชาชนที่จอดขวางทางจำนวน 3 นัด นายศักดิ์สิทธิ์และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงช่วยกันแย่งปืนจนชุลมุนขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันเข้าชาร์จจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนทำการตรวจค้นภายในรถ พบของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และยาเสพติดหลายรายการประกอบด้วย อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคล์ท ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .45 จำนวน 25 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 4 นัด นอกจากนี้ยังพบยาเสพติด ทั้ง ยาบ้า กัญชา และยาไอซ์ ตาชั่ง และเครื่องชั่งดิจิตัลอีก 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ จึงนำตัวไปสอบสวนที่สภ.ฉลอง ส่วน นายศักดิ์สิทธิ์และนายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอบจ.ภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ
ทั้งนี้หลังควบคุมตัวได้ พ.ต.อ. อารยพัน พุกบัวขาว รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง และ ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต และพนักงานสอบสวนร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและร่วมสอบปากคำ นายพิมลศักดิ์ผู้ก่อเหตุ
จากการสอบสวน ทราบว่า นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ก่อเหตุ ได้รู้จักกับนางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ทางเฟสบุ๊ก และตัดสินใจคบหากันประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ นายพิมลศักดิ์ เป็นคนอารมณ์ร้อนชอบทุบตีนางสาวเพ็ญนภาเป็นประจำและมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้นางสาวเพ็ญนภาต้องการขอแยกทาง โดยก่อนเกิดเหตุนายพิมลศักดิ์ได้พยายามติดต่อนางสาวเพ็ญนภา ทางโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะ นางสาวเพ็ญนภาไม่รับสายเนื่องจากอยากแยกทาง นายพิมลศักดิ์จึงบุกมาหาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวเพ็ญนภา ในเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 11 คน รวมทั้ง นางสาวเพ็ญนภา และนอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุและเด็กอยู่ด้วย เมื่อนายพิมลศักดิ์ มาถึงก็ได้พยามยามหาตัวนางสาวเพ็ญนภาในห้องนอน แต่ไม่พบเนื่องจากหลบอยู่ในห้องนอนของพี่สาว จากนั้นนายพิมลศักดิ์ จึงได้มานั่งดื่มเบียร์ กับ นายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของน.ส.เพ็ญนภา ก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น นาย พิมลศักดิ์จึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่นายศักดิ์สิทธิ์ 2 นัด ทำให้กระสุนถูกเข้าบริเวณขาของนายศักดิ์สิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ และกระสุนเฉี่ยวโดนแขนของนายพงศกร เอี่ยมสำราญ 22 ปี ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของน.ส.เพ็ญนภาอีก 1 นัดได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนางสาวเพ็ญนภาซึ่งหลบอยู่ในห้องนอนพี่สาวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหลบหนีออกมาจากห้องนอนของพี่สาว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาหนักกับ นายพิมลศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ทั้ง ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ และจากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า นาย พิมลศักดิ์เคยต้องโทษในคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษเมื่อ ปี 2559ที่ผ่านมา