ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน “แส จี้นเจียง” เจ้าพ่อกาสิโนเมียวดี กลับไปรับโทษที่จีน

ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น ส่งตัว “นายแส จี้นเจียง” เจ้าพ่อกาสิโนเมียวดีและเว็บพนันหมื่นล้าน เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับจีนภายใน 90 วัน
10 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยความคืบหน้าคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายแส จี้นเจียง (SHE Zhijiang) ชาวจีนและกัมพูชา ผู้เป็นเจ้าของบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยระบุว่า
ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ส่งตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang บุคคลสัญชาติจีนและกัมพูชา ผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐานเปิดบ่อนกาสิโนโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของจีน โดยผู้ถูกร้องขอ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ออกคำสั่งให้สร้างและดำเนินกิจการเว็บไซต์การพนันออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์การพนันออนไลน์ ที่ใช้งานอยู่ 239 แห่ง และมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 2,775 พันล้านหยวน (หรือคำนวณเป็นเงินไทยประมาณ 12.63 ล้านล้านบาท)
ทั้งยังมีส่วนในการสร้างเมืองใหม่แห่งเอเชียแปซิฟิกในเขตเศรษฐกิจพิเศษสุ่ยโก่กู่ (ชเวโก๊กโก่) แห่งเอเชียแปซิฟิกของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และถูกกล่าวหาว่าได้เปิดและเป็นหุ้นส่วนในบ่อนกาสิโน 2 แห่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกร้องขอกับพวกได้ชักชวนนักพนันชาวจีนให้เล่นการพนันที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มาอย่างต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ จนทำกำไรได้เป็นเงินจำนวนมหาศาล
การส่งตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) โดยเป็นคดีที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดและติดตามสถานะการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
นายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang ผู้ถูกร้องขอเป็นบุคคลที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ส่งคำร้องขอให้จับกุมชั่วคราวมายังทางการราชอาณาจักรไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 โดยอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือตามที่ทางการ สาธารณรัฐประชาชนจีนร้องขอ และมอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานงาน ร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจ สามารถจับกุมตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang ได้สำเร็จในเดือนเดียวกัน
หลังจากนั้น ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีคำร้องขอให้ส่งตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang เป็นผู้ร้ายข้ามแดน และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 อัยการสูงสุดผู้ประสานงานกลางได้อนุมัติให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang ผู้ถูกร้องขอ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566
ศาลชั้นต้นก็ได้มีคำสั่งให้ขังผู้ถูกร้องขอไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมา เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ผู้ถูกร้องขอได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น และเมื่อเดือนธันวาคม 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลได้อนุญาตให้ขยาย และศาลได้มีคำสั่งรับไว้พิจารณา
ต่อมา นายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang ผู้ถูกร้องขอ ได้ยื่นคำโต้แย้งในประเด็นข้อกฎหมายว่า พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19 และมาตรา 21 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ศาลอุทธรณ์จึงได้ส่งคำโต้แย้งของผู้ถูกร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 212 หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติ ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19 และมาตรา 21 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และในวันนี้ 10 พฤศจิกายน 2568 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยให้ส่งตัวผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว
การดำเนินการเพื่อส่งตัวนายแส จี้นเจียง หรือ SHE Zhijiang ผู้ถูกร้องขอ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งพนักงานอัยการและเจ้าพนักงานตำรวจ การประสานงานที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รวมถึงความรวดเร็วในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญ ในความพยายามส่งตัวผู้กระทำความผิดที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพื่อกลับไปดำเนินคดีในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในโอกาสนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดจึงขอแสดงความขอบคุณต่อกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยมา ณ ที่นี้


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น่ากลัวมาก จีนเทาจากเขมร ตั้งฐานกรุงเทพ ใช้ AI สร้างคลิปเหยื่อ หันซ้ายขวา หลอกแอปธนาคาร
- แก๊งจีนเทา พระราม 9 ท้าทายกฎหมาย รุมยำ หนุ่มญี่ปุ่น แค้น ถูกถ่ายคลิปสูบบุหรี่
- จีนสั่งประหารชีวิตสมาชิก “ตระกูลไป๋” 5 ราย เอี่ยวทำคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





