ข่าว

รวบ ‘น้องแอลดา’ ลวงนักธุรกิจต่างชาติมีเพศสัมพันธ์หลายยก ก่อนกวาดทรัพย์เกลี้ยง

ตำรวจรวบ น้องแอลดา ลวงนักธุรกิจต่างชาติมีเพศสัมพันธ์ ก่อนกวาดทรัพย์เกลี้ยง อ้างมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งแต่ไม่ได้ทิปเลยโกรธ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 เข้าจับกุม น้องแอลดา หรือ นาย สิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.793/2566 ลงวันที่ 29 ส.ค.2566

โดยน้องแอลดาเป็นผู้ต้องหาในคดี “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด” ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาจะออกอุบายชวนให้นักท่องเที่ยวที่กำลังหาที่ระบายเพลงรัก ล่าสุดนักธุรกิจชาวเดนมาร์ก อายุ 78 ปี เผลอใจตกเป็นเหยื่อของสาวสองรายนี้ โดยเริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายเข้ามาท่องเที่ยวเพียงลำพังในประเทศไทย ช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรู้จักผ่านแอปพลิเคชั่นหาเพื่อน จึงนัดพบกับผู้ต้องหารายนี้ที่ดาดฟ้าของโรงแรมชื่อดังย่านสุขุมวิท

โดยผู้ก่อเหตุได้จูงมือเหยื่อเข้าห้องพัก ก่อนจะฉวยโอกาส กวาดทรัพย์สินของผู้เสียหายไปหมดทั้ง โทรศัพท์มือถือ เงินสด บัตรเครดิต มูลค่ากว่า 40,000 บาท เมื่อผู้เสียหายตื่นมาเหลือเพียงเสื้อผ้าไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

รวมถึง ยังส่งข้อความมาไถเงินอีกกว่า 35,000 บาท หวังแบล็คเมล์ผู้เสียหายเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ แต่ผู้เสียหายไม่กลัว และเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และยังได้ขอความช่วยเหลือมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” ให้ช่วยติดตาม

เบื้องต้นน้องแอลดา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งยังไม่ได้แปลงเพศ และจะชอบนัดหลับนอนกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เป็นคดีนี้ตนรู้จักกับเหยื่อได้เพียง 1 วัน จากนั้นได้นัดหมายให้ไปเจอกันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยทั้งสองมีเพศสัมพันธ์ 5 ครั้ง แต่ตนไม่ได้ทิปจึงรู้สึกโมโห

ผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสเมื่อเหยื่อเสียหาย จึงตัดสินใจลงมือขโมยทรัพย์สิน โดยเอาเงินสด, โทรศัพท์ และบัตรเครดิต ของเหยื่อไป หลังจากนั้นได้นำบัตรเครดิตไปรูดซื้อโน๊ตบุ๊ก ส่วนโทรศัพท์ได้นำไปขายต่อให้กับคนรู้จักย่านดินแดง โดยตอนนี้สำนึกและขอโทษที่ทำให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียง จะให้ความร่วมมือ

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button