ข่าวต่างประเทศ

กัมพูชา รายงาน พลเรือนเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดดับพุ่ง 17 ศพ อ้างไทยละเมิดหยุดยิง

สื่อกัมพูชาอ้าง ยอดผู้เสียชีวิตพลเรือนพุ่ง 17 ศพ บาดเจ็บ 77 ราย จากเหตุปะทะชายแดน ประชาชนต้องอพยพหนีตายกว่า 4 แสนคน

สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสื่อกัมพูชาได้อ้างจากรายงานของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนชาวกัมพูชาได้เพิ่มขึ้นเป็น 17 รายแล้ว หลังจากมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ที่ศูนย์พักพิงในจังหวัดเกาะกง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บรวมอยู่ที่ 77 ราย

รายงานดังกล่าวยังระบุว่า เหตุการณ์ความสูญเสียล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงเวลา 13.00 น. ถึง 18.00 น. ซึ่งทางรัฐบาลกัมพูชาอ้างว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และมีการรุกรานจากฝ่ายไทยโดยปราศจากเหตุยั่วยุ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

ความเสียหายของบ้านเรือนฝั่งกัมพูชา
FB/ Fresh News

ผลกระทบจากการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการอพยพของพลเรือนครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดของกัมพูชา โดยข้อมูล ณ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม ระบุว่ามีประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วกว่า 131,672 ครอบครัว รวมเป็นประชากรทั้งสิ้น 438,953 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 225,572 คน และเด็กอีกกว่า 134,602 คน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย บันเตียเมียนเจย พระตะบอง โพธิสัตว์ เกาะกง เสียมราฐ และกำปอต

นอกจากความสูญเสียทางชีวิต ทางการกัมพูชายังรายงานความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากนับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เป็นต้นมา ทั้งบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน สถานพยาบาล ศาสนสถาน สะพาน และย่านการค้าต่างๆ ส่งผลให้ระบบบริการสาธารณะในพื้นที่ได้รับผลกระทบต้องหยุดชะงักเกือบทั้งหมด โดยรัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ยกย่องกองกำลังความมั่นคงที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และแสดงความขอบคุณในพลังความสามัคคีของชาวกัมพูชาทั่วโลก

ที่มา: KHMER TIMES

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button