
เฉลยสาเหตุ คนละครึ่งพลัส ต้องสร้าง QR Code ใหม่ทุกครั้ง ตอนจ่ายเงิน เพราะต้องระบุยอดเงินทุกครั้ง ป้องกันทุจริต แลกเงินสด
วันนี้ (29 ต.ค. 68) เป็นวันแรกที่โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เริ่มเปิดให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ สร้างความคึกคักให้กับการจับจ่ายในเศรษฐกิจฐานราก รัฐร่วมจ่าย 50% สำหรับการซื้อสินค้าผ่านแอปฯ เป๋าตัง (สำหรับประชาชน) กับร้านค้าที่ใช้แอปฯ ถุงเงิน ประชาชนทั่วไปได้เงิน 2,000 บาท ส่วนผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แม้ว่าจะไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ก็จะได้ 2,400 บาทเช่นกัน
สินค้าที่ร่วมโครงการ ซื้อได้ ประกอบด้วย อาหาร และ เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการขนส่งสาธารณะ บริการนวด สปา ทําเล็บทําผม
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว พบว่าประชาชนเริ่มจับจ่ายใช้สอยคนละครึ่งกันอย่างคึกคัก ทั้งร้านค้ารายย่อย และรถไฟฟ้า BTS ของคนกรุง แต่ก็เจอคำถามว่า เหตุใดต้องสร้าง QR Code ใหม่ทุกครั้งที่สแกนจ่าย จะทำให้ธุรกรรมล่าช้าขึ้นหรือไม่

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ การซื้อของทุกครั้ง ร้านค้าต้องระบุยอดจำนวนที่ชัดเจนผ่านแอปถุงเงิน ให้ลูดค้าแสกนแบบเจาะจงในแต่ละรายการยอดสินค้า เพื่อให้รายการคำนวณระบบร่วมจ่ายได้ ทั้งยังป้องกันการทุจริต นำยอดเงินในคนละครึ่งไปแลกเป็นเงินสด เพราะแต่ละ QR code ที่สร้างใหม่ จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งหมดว่า ใครเป็นคนจ่าย จ่ายให้ร้านไหน และจ่ายกี่บาท
ระบบนี้ ใช้มาตั้งแต่สมัยคนละครึ่ง 1 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการจะคุ้นเคยวิธีใช้อย่างดี ไม่เจอปัญหา และไม่ได้ทำให้ล่าช้าเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ที่มา : คนละครึ่งพลัส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิธีหาร้าน “คนละครึ่งพลัส” ใกล้ฉัน เช็กได้ที่เว็บ-แอปเป๋าตัง
- ทำได้ไหม? อยู่คนละที่แต่ ถ่าย QR Code ส่งให้คนมีสิทธิ ‘คนละครึ่งพลัส’ สแกนจ่ายแทน
- เคลียร์ชัด คนละครึ่งพลัส ใช้เต็มวงเงินจะหมดภายในกี่วัน? เปิดลิสต์ร้านที่เข้าร่วม
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





