“โรม” ถามเขมรหายไปไหน ไม่ยอมร่วมโหวต IPU ปราบสแกมเมอร์

รังสิมันต์ โรม ถามเขมรหายไปไหน หลังไม่ยอมร่วมโหวตมติ IPU ปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระเร่งด่วน ชี้ชนะโหวตครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
จากกรณีที่ สหภาพรัฐสภา หรือ IPU ลงมติสนับสนุน 2 ใน 3 ของทั้งหมด ต่อข้อเสนอวาระเร่งด่วนเรื่องสแกมเมอร์ของประเทศไทย เป็นปัญหาเร่งด่วน ซึ่งส่งผลกระทบต่อด้านต่างๆ ในวงกว้าง จึงต้องการให้รัฐสภาทั่วโลกรับทราบ และแสดงบทบาทร่วมกัน ในการจัดการปัญหาภายใต้กรอบนิติบัญญัตินั้น
ล่าสุด นาย รังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ซึ่งมีส่วนร่วมผลักดันวาระดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะได้รับความร่วมมือที่ดีมากๆ โดยเฉพาะจากประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แต่การจะชนะโหวตด้วยคะแนน 2 ใน 3 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ความยากเป็นเพราะคะแนนจากกลุ่มประเทศที่แบ่งกันตามภูมิภาค เช่น แอฟริกา ละตินอเมริกา และยุโรป แต่ละกลุ่มมีคะแนนรวมกันสูงมาก โดยเฉพาะยุโรปที่มีคะแนนมากที่สุด ไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเจรจากับประเทศต่างๆ เหล่านั้น เพื่อขอการสนับสนุน
“ต้องขอขอบคุณประเทศออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยอย่างแข็งขัน ช่วยเป็นตัวเชื่อมให้ไทยได้คุยกับกลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะโปแลนด์ที่ทำหน้าที่เชื่อมไทยกับประเทศในยุโรปชาติอื่นๆ อีก เช่น สวีเดน และยังรวมถึงละตินอเมริกาด้วย”
นายรังสิมันต์ เล่าถึงจุดพลิกเกมที่ทำให้ร่างข้อมติของไทยกลายเป็นร่างที่ได้เปรียบ และชนะโหวตในที่สุด เบื้องต้นไทยโฟกัสเฉพาะเรื่องศูนย์กลางสแกมเมอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนเท่านั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่าการจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ ต้องมีการเจรจาและสอบถามความต้องการของเพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ด้วย และเราพบว่ากลุ่มประเทศละตินอเมริกาและยุโรปต้องการผลักดันเรื่อง อาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ และ ขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเมื่อทีมรัฐสภาไทยนำมาพิจารณาแล้ว ก็พบว่าเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของไทยด้วยเช่นกัน จึงนำประเด็นความต้องการเหล่านี้มารวมกันกับของไทย และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
ทีมเลขาฯของรัฐสภาก็ร่วมทำงานด้วยกันจนดึกดื่นทุกคืน ต้องพูดคุยเจรจา เพราะการจะนำ 3 เรื่องจาก 3 ทวีปมารวมกันเป็นข้อมติเดียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถึงแม้จะมีหัวข้อใหญ่เดียวกัน แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกันมาก แต่ข้อดีก็คือ เมื่อร่างข้อมตินี้ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 และได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน เมื่อถึงในชั้นของกรรมาธิการยกร่าง คงจะทำงานกันง่ายขึ้น เพราะเหมือนกับได้ทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว
พร้อมยังตั้งข้อสังเกตถึงท่าทีของกัมพูชาว่า “หายไปไหน ทำไมไม่มาโหวต” ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็พูดทำนองว่าจะไม่คัดค้าน แต่ท้ายที่สุดก็หายไป ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการทำงานเรื่องสแกมเมอร์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ
นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นร่างข้อมติเพื่อเสนอเป็น “วาระเร่งด่วน” หรือ Emergency item ร่างแรกที่เสนอโดยประเทศไทย แล้วผ่านเข้าสู่เวทีใหญ่ IPU ได้สำเร็จ และยังถือว่าได้คะแนนโหวตสูงมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าได้ประมาณ 700 คะแนนก็หรูแล้ว แต่คะแนนออกมาได้ไปมากกว่า 800 คะแนน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ที่ประชุม IPU เห็นชอบ “ปราบสแกมเมอร์” เป็นวาระเร่งด่วน เขมรไม่ร่วมประชุม
- นานาชาติหนุน “รังสิมันต์ โรม” เสนอปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระเร่งด่วน สู่เวทีโลกสำเร็จ
- “โรม” เขย่า “อนุทิน” ไม่ทำอะไร หลัง “สหรัฐฯ-เกาหลีใต้” ลุยปราบสแกมเมอร์
ติดตาม The Thaiger บน Google News: