อยู่ได้เพราะ “บุญเก่า” หมอเล่า รพ. ยอมดึงเงินสิทธิ์เบิกได้ อุ้ม “บัตรทอง” หวั่นกรรมตกที่ประชาชน

หมอเผยเบื้องหลังการเงิน รพ.รัฐ ชี้อยู่ได้เพราะ “บุญเก่า” คือการดึงเงินสิทธิ์ข้าราชการมาอุ้ม “บัตรทอง” พร้อมเตือนหากบุญเก่าหมด กรรมจะตกที่ประชาชน
20 ตุลาคม 2568 นายแพทย์มีโชคชัย วิเศษสิทธิโชค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงสถานะทางการเงินที่น่ากังวลของโรงพยาบาลชุมชน โดยชี้ว่าที่ผ่านมาโรงพยาบาลสามารถอยู่รอดได้เพราะต้องนำรายได้จากสิทธิ์ข้าราชการมาอุ้มค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยสิทธิบัตรทองและประกันสังคม พร้อมเตือนว่าหากบุญเก่าหมดลง ผลกระทบจะตกอยู่ที่ประชาชน
“ปี 2568 โรงพยาบาลโพธิ์ทอง แบกรับค่าใช้จ่ายจากเงินบำรุงโรงพยาบาล เดือนละ ประมาณ 8,000,000-10,000,000 บาท ค่าจ้างลูกจ้าง ที่จ้างด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาล ประมาณเดือนละ 1,000,000 บาท OT/เวร ทุกวิชาชีพรวมกันประมาณ เดือนละ 1,000,000 บาท ค่าตอบแทนเงินเพิ่มพิเศษบุคลากร/ฉ.11 ประมาณเดือนละ 450,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ/ค่าไฟ/อื่นๆ) ประมาณเดือนละ 450,000 บาท
รวมค่าใช้จ่าย ในส่วนนี้ประมาณเดือนละ 3,000,000 บาท ที่เหลือเป็น Materials cost ยา/เวชภัณฑ์/Lab/CT/ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ตกเดือนละ 6,000,000 กว่าบาท

ถ้ามีการพัฒนาโรงพยาบาลก็จะมีรายจ่ายมากขึ้นในรายเดือน นั่นแปลว่าถ้าเงินไม่มากพอก็ ไม่ได้พัฒนาอะไรนั่นเองครับ แต่โรงพยาบาลเรามีรายได้ จากสิทธิ์บัตรทอง ในปี 2568 ประมาณ 54,000,000 ล้านบาท (น้อยเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย) และจากผู้ป่วยเบิกได้ทุกสิทธิ์ ประมาณ 35,000,000บาท (ถือว่าสูงในระดับ รพช. ขนาดใกล้เคียง) ประกันสังคมประมาณ 4,500,000 บาท (น้อย)
การลงทุนพัฒนาอะไรได้ผู้มีจิตศรัทธาใจบุญร่วมบริจาคเงินก็ไม่น้อย ไม่มากครับ ซึ่งรายได้บัตรทองปี 2568 เป็นเงินผู้ป่วยใน (IP UC) แค่ 6,000,000 กว่าบาทเองครับ ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนแล้วน้อยมากเลย ซึ่งครองเตียงเกิน 80% ตลอด
ช่วงนี้มีข่าวมาว่าจะปรับ Rate การจ่ายให้เป็น 1 adjRW ได้ 13,000 บาท ผมเห็นด้วยกับความคิดนี้อย่างยิ่งเลยครับ ยิ่งในโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ ต้นทุนการรักษาจะยิ่งสูงกว่าโรงพยาบาลชุมชนอีก 1 adjRW 8,350 บาท ไม่น่าจะเหมาะสม อันนี้ยังไม่รวมที่ถูกปรับลดในเดือนได้ท้ายๆ อีกนะครับ
ที่ผ่านมาที่อยู่รอดกันมาเพราะเราเอารายได้จากสิทธิ์อื่น เช่นสิทธิ์เบิกได้มาถัวการบริการของบัตรทอง และประกันสังคม ก็อยู่รอดกันเป็นปีๆ หมดบุญเก่าเมื่อไหร่คงได้ขาดทุน ซึ่งผลจากการขาดทุนก็คือต้องปิดบริการ การรักษาที่ต้นทุนสูง ที่ให้ผู้ป่วยลงบางส่วนก็จะเป็นผลกระทบกับประชาชนนั่นแหละครับ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “หมอเหรียญทอง” งดรับผู้ป่วยบัตรทอง รพ.มงกุฎวัฒนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่า สปสช.จะจ่ายหนี้
- รพ.มงกุฎวัฒนะ แบกต่อไม่ไหว งดรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง สปสช. ค้างหนี้กว่า 100 ล้าน เงียบกริ๊บ
- รีบเช็ค เปิดโผรายชื่อ 25 โรงพยาบาลเอกชน ออกจากระบบ “บัตรทอง” มีผล 1 ต.ค. 68
ติดตาม The Thaiger บน Google News: