ข่าวต่างประเทศ

สาวเมืองผู้ดีวัย 25 ไปหาหมอเรื่องผื่น ก่อนได้บทเรียนราคาแพง เตือน “หมั่นเช็กลำคอ”

ฉันแค่ไปหาหมอเรื่องผื่น แต่ไม่กี่นาทีต่อมา ชีวิตฉันก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย เรื่องราวของ เบคกี้ โบวส์ บทเรียนราคาแพงที่ย้ำเตือนให้เรา “ตรวจเช็คลำคอ”

เมื่อ เบคกี้ โบวส์ (Becky Bowes) เดินเข้าไปพบแพทย์ด้วยเรื่องผื่นคันธรรมดาๆ ที่แขน เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่า นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การวินิจฉัยโรคมะเร็งในเวลาต่อมา

หญิงสาวซึ่งปัจจุบันอายุ 25 ปี เล่าย้อนถึงวินาทีที่เปลี่ยนชีวิตในห้องตรวจว่า เธอรู้สึกสับสนที่แพทย์ “เอาแต่จ้องมอง” ที่ลำคอของเธอไม่ละสายตา ก่อนชี้ให้เห็นถึงก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง แม้มีขนาดเท่าลูกกอล์ฟแต่กลับไม่มีใครเคยสังเกตเห็นมานานถึง 5 ปีเต็ม เนื่องจากตำแหน่งที่มันซ่อนอยู่

“ตอนนี้ เวลากลับไปดูรูปเก่าๆ ฉันเห็นแต่ก้อนเนื้อก้อนนั้น” เบคกี้ กล่าว “ฉันแค่ไปหาหมอเรื่องผื่น แต่แล้วภายในไม่กี่นาที โลกทั้งใบของฉันก็พังทลายลงมา”

ในเวลาต่อมา หญิงสาวเมืองผู้ดีรายนี้ถูกวินิจฉัยว่า เป็น “มะเร็งไทรอยด์ชนิดแพปพิลลารี” (papillary thyroid cancer) ระยะที่ 3

ภาพ @ Jam Press

การต่อสู้ที่ยาวนาน

เบคกี้เข้ารับการผ่าตัดในเดือนพ.ค. 2020 เพื่อ “ตัดต่อมไทรอยด์” และ “ต่อมน้ำเหลือง 22 ต่อม” ออกไป !

ผลการตรวจพบว่า มีเซลล์มะเร็งในต่อมน้ำเหลืองถึง 13 ต่อม จากนั้นเขจ้าตัวต้องเข้ารับการกลืนแร่ไอโอดีนรังสี (radioactive iodine) 2 ครั้ง เพื่อติดตามการแพร่กระจาย แต่เรื่องที่น่าเศร้าที่สุด คือ ก้อนเนื้อถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานานเกินไป ในที่สุดมะเร็งก็ได้ลุกลามไปยังปอดของสาวป่วยโรคร้ายแรง

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เบคกี้ ต้องเข้ารับการกลืนแร่อีกครั้ง และต้องพักฟื้นอยู่ใน “ห้องตะกั่ว” ที่แยกตัวออกจากผู้อื่นเป็นเวลาสามวันเต็ม

บาดแผลที่มองไม่เห็น

แม้การรักษาจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ชีวิตของเบคกี้ไม่เคยกลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็น “ภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง” (chronic fatigue syndrome) ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากไม่นอนพักเป็นเวลานานในแต่ละวัน ยังมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพจิตและความมั่นใจ

“ฉันไม่ใช่คนอายุ 25 ปีแบบปกติ ฉันติดแหง็กอยู่กับการทำอะไรไม่ได้เลย และถ้าฉันฝืนตัวเองมากเกินไป สุดท้ายฉันก็จะล้มป่วยจนต้องนอนติดเตียง”

เบคกี้ เชื่อว่าหากอาการซึมเศร้าของตัวเองซึ่งเป็นหนึ่งในอาการหลักของมะเร็งไทรอยด์ ได้รับการตรวจอย่างละเอียดตั้งแต่แรก แทนที่จะเป็นเพียงการสั่งยาต้านซึมเศร้า มะเร็งของเธออาจจะถูกตรวจพบได้เร็วกว่านี้ และคุณภาพชีวิตในวันนี้อาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่

ภาพ @ Jam Press

บทเรียนราคาแพง

บัดนี้ ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของเธอคือการเกิดมะเร็งทุติยภูมิ หรือการที่ไม่สามารถมีลูกได้ เธอต้องเข้ารับการตรวจเลือดทุกๆ 6 เดือนเพื่อติดตามสารบ่งชี้มะเร็ง (Cancer Markers)

เบคกี้หวังว่าเรื่องราวอันเจ็บปวดของเธอจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจร่างกายของตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณลำคอ เช่นเดียวกับที่เราถูกสอนให้ตรวจเต้านมหรืออัณฑะอยู่เสมอ

“อย่าได้เพิกเฉยต่ออาการผิดปกติหรือก้อนเนื้อใดๆ เลย” เธอกล่าวทิ้งท้าย “และถ้าคุณรู้สึกว่าแพทย์ไม่ได้ใส่ใจรับฟังคุณอย่างจริงจัง จงกล้าที่จะขอพบแพทย์คนอื่น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”.

ภาพ @ Jam Press

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button