พายุวิภา ถล่มจีนตอนใต้ จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม เร่งอพยพ ปิดเที่ยวบินหลายเส้นทาง กรมอุตุนิยมวิทยาไทย เผย 40 จังหวัดฝนตกหนักมาก 21-24 กรกฎาคม
21 กรกฎาคม 2568 พายุไต้ฝุ่น “วิภา” พัดถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนด้วยฝนกระหน่ำและลมแรงจัด หลังจากเพิ่งเคลื่อนตัวผ่านฮ่องกงและมาเก๊า พร้อมคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 5 รายในฟิลิปปินส์
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาจีนรายงานว่า ไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 6 ของปีนี้ ได้ขึ้นฝั่งที่เมืองไถซาน มณฑลกวางตุ้ง เมื่อค่ำวันที่ 20 กรกฎาคม ด้วยความเร็วลมเทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 1 จากนั้นได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนตัวไปทางตะวันตก และเบี่ยงลงสู่ภาคใต้
พื้นที่ชายฝั่งของจีน ได้แก่ มณฑลกวางตุ้ง กว่างซี ไห่หนาน และฝูหนาน ได้รับคำเตือนว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันที่ 22 กรกฎาคม
ฮ่องกง-มาเก๊าป่วน ต้องเลื่อนเที่ยวบินกว่า 600 เที่ยว
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ไต้ฝุ่นวิภาเคลื่อนผ่านทางตอนใต้ของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ทางการต้องประกาศสัญญาณเตือนภัยหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของฮ่องกงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2023
ทั้งฮ่องกงและมาเก๊าต้อง ปรับตารางบินมากกว่า 600 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก
เวียดนามเร่งรับมือ อาจเกิดน้ำท่วม-ดินถล่ม
หลังจากพัดถล่มจีนตอนใต้ ไต้ฝุ่นวิภาคาดว่าจะเคลื่อนตัวลงทะเลอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นฝั่งที่ ชายฝั่งตอนบนของเวียดนาม ระหว่างจังหวัด กว๋างนิงห์ และ นิงบิ่ญ
นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋นห์ ของเวียดนาม ส่งคำสั่งฉุกเฉินไปยังจังหวัดชายฝั่งในวันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อให้เตรียมการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง เตรียมอาหาร อุปกรณ์กู้ภัย และป้องกันโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร
“นี่คือไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวเร็วและมีความรุนแรงสูง” ข้อความในคำสั่งระบุ
สายการบินในประเทศเวียดนาม เช่น Vietnam Airlines และ Pacific Airlines ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศอย่างน้อย 9 เที่ยวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม และมีแนวโน้มจะยกเลิกเพิ่มเติม
สายการบินต้นทุนต่ำ VietJet ก็ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 12 เที่ยวในวันเดียวกัน รวมถึงบางเที่ยวที่บินไปยังเกาหลีใต้
ฟิลิปปินส์อ่วม น้ำท่วมหนัก ปิดโรงเรียนทั่วกรุง
ในขณะเดียวกัน ฝนมรสุมที่ถูกกระตุ้นโดยไต้ฝุ่นวิภา ได้พัดกระหน่ำพื้นที่ส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์ในวันที่ 21 กรกฎาคม ก่อให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในกรุงมะนิลาและจังหวัดโดยรอบ ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ทำงานหลายแห่ง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และประชาชนกว่า 100,000 คนต้องอพยพ จากบ้านเรือนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเกาหลีใต้ ก็เผชิญกับความเสียหายจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ เวียดนาม เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เกิดเหตุเรือล่องอ่าวฮาลองล่มจากพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 35 ราย
ขณะที่ เกาหลีใต้ รายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 รายจากเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ทางตอนใต้และตอนกลางของประเทศ
เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อไต้ฝุ่นเนื่องจากมีแนวชายฝั่งติดทะเลจีนใต้เป็นระยะทางยาว โดยเมื่อปี 2024 ไต้ฝุ่น “ยากิ” (Yagi) ได้คร่าชีวิตประชาชนกว่า 300 ราย และสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ไต้ฝุ่นวิภากำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้มากขึ้น ประชาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ถึงเส้นทางที่อาจเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่อาจรุนแรงยิ่งขึ้น
ลาวเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม อิทธิพลไต้ฝุ่นวิภา
กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของลาว ออกประกาศเตือนภัยให้ประชาชนเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม จากอิทธิพลของไต้ฝุ่น “วิภา” ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ของปี
แม้ไต้ฝุ่นวิภาจะเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ขณะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เวียดนามในช่วงวันจันทร์ถึงวันอังคาร (22–23 ก.ค.) แต่คาดว่าจะยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ภาคเหนือและภาคกลางของลาว ด้วยฝนฟ้าคะนองระดับเบาถึงปานกลางในหลายพื้นที่ รวมถึงฝนตกหนักและลมแรงในบางส่วนของภาคกลางและภาคใต้
หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของลาวได้ขอความร่วมมือให้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมน้ำ และพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ เช่น น้ำหลากฉับพลัน ดินถล่ม และความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ทั้งนี้ ทางการลาวยังขอให้ประชาชน ติดตามรายงานสภาพอากาศและประกาศเตือนภัยจากทางการอย่างใกล้ชิด ตลอดช่วงที่พายุยังเคลื่อนผ่านภูมิภาค
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “วิภา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 7 (193/2568)
เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (21 ก.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ยในวันนี้ (21 ก.ค. 68) คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองท้ายบิ่ญ ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 68) และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
หลังจากนั้นพายุนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนต่อไป ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตากกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
วันที่ 23-24 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุดุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 11.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฮ่องกง ประกาศยกเลิกเตือนภัยพายุ “วิภา” เตือนยังมีฝนตกต่อเนื่อง
- เปิดคลิป “พายุวิภา” ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่น จ่อถล่มไทย เตือนภัยระดับสูงสุด
- เส้นทางพายุวิภา ไทยเจอฝนถล่ม 22-24 ก.ค.นี้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
