สาวจีน อ้างถูกชายไทยลวงข่มขืน ก่อนจุดไฟเผาฆ่าปิดปาก ตร. สอบพิรุธด่วน
สาวจีน อ้างถูกชายไทยลวง พยายามข่นขืนในป่า ก่อนจุดไฟเผาฆ่าปิดปาก ตำรวจเร่งสอบพิรุธ หลังพบว่าไม่มีร่องรอยต่อสู้ รวมถึงให้การวนไปวนมา
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 18 ก.พ. 67 พ.ต.ท.จีรศักดิ์ แอบแฝง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่า สาวชาวจีน ถูกล่อลวงเข้าไปข่มขืนภายในป่า ด้านหลังสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ ใกล้กับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2081 (ถนนสายโปโล – บ้านบึง) ม.9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบ เป็นป่าหญ้าติดกับไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนทางหลวงชนบทหมาย 2801 ประมาณ 400 เมตร โดยรอบๆ บริเวณเป็นที่มืดสงัด ไม่มีแสงไฟ อีกทั้งพบว่าบริเวณป่าหญ้ารอบด้าน ถูกไฟไหม้เป็นวงกว้างกว่า 70-80 เมตร
ในเบื้องต้น พบหญิง ทราบชื่อคือ นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน พร้อมกับ นาย บี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี น้องชายสัญชาติเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหญิงชาวจีนอยู่ในสภาพผมยุ่ง ข้อมือทั้งสองข้างมีร่องรอยถูกมัดด้วยเชือก อีกทั้งยังอาการ วิตกกังวล หวาดกลัวตลอดเวลา
ตำรวจท่องเที่ยวมีการประสาน ล่ามชาวจีน เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยและถ่ายทอดข้อความจากหญิงสาวจีนรายนี้ จนทราบความว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. (18 ก.พ.67) ผู้เสียหายกับน้องชาย ได้ยืนโบกรถ ที่บริเวณหน้าสวนไทย ริมถนนสาย 331 (สัตหีบ – นครราชสีมา) ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม. เพื่อจะให้ช่วยส่งเธอกับน้องชายไปที่ย่านพัทยา จากนั้นได้มี คนไทย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันผ่านมา และได้จอดรถพร้อมกับอาสาจะไปส่ง ซึ่งเธอกับน้องชายก็ยอมขึ้นนั่งซ้อนท้าย เพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย โดยนั่งซ้อนท้ายคนละคัน
ระหว่างเดินทางเริ่มเห็นความผิดปกติ จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของเธอกับน้องชายที่นั่งซ้อนท้ายมา เกิดคลาดกัน จากนั้นเธอก็ถูก ชายไทยที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย พาเลี้ยวเข้าป่า เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วบังคับให้ตนเองลงจากรถ พร้อมกับใช้เชือกมัดมือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็เริ่มลวนลาม ก่อนจะจับกดลงกับป่าหญ้า แล้วถอดกางเกง พยายามข่มขืน แต่ปรากฏว่าทำไม่สำเร็จ
จากนั้นคนร้ายได้นำครีมโลชั่นมาชะโลมทาทั่วตัวของตน คล้ายกับทำลายหลักฐานลายนิ้วมือ แล้วนำน้ำมันมาราดป่าหญ้ารอบๆ บริเวณ ก่อนจะจุดไฟเผา เพื่อจะฆ่าตนปิดปาก หลังจากนั้นคนร้ายก็หลบหนีไป ปล่อยให้ตนนั่งอยู่กลางกองไฟ ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวมาก จึงพยายามใช้ไฟลนเผาเชือกที่มัดอยู่ในข้อมือ จนเชือกหลุดขาด ก่อนจะพยายามติดต่อหาน้องชายให้มาช่วยเหลือ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.จีรศักดิ์ แอบแฝง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา) ร่วมกันสอบปากคำ ผู้ร้องทุกข์ เบื้องต้นพบข้อพิรุธหลายอย่างในการเล่าเรื่องต้นสายปลายเหตุ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย จะต้องส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
ส่วนข้อพิรุธที่พบ ระหว่างที่มีการพูดคุย ผู้เสียหายพูดจาวกไปวนมา ประกอบกับ จากสังเกตร่างกายของผู้เสียหาย ไม่พบเสื้อผ้ามีร่องรอยเปอะเปื้อน หรือ ร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงรอยเขียวช้ำบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงการตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้ายในร่างกายของผู้เสียหาย พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง เพื่อพิสูจน์ความจริงต่อไป