‘ชัชชาติ’ เผยฉีดน้ำไม่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อาจออกประกาศขอให้ WFH
ชัชชาติ เผยฉีดน้ำไม่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เตรียมออกประกาศขอให้ทำงานจากบ้าน หรือ WFH คาดปัญหาฝุ่นมาจากพื้นที่จราจรแออัด
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวระหว่างมาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมาสำรวจค่าฝุ่น PM 2.5 แยกราชประสงค์ โดยนายชัชชาติ ระบุว่า หากดูการประมวลผล และคาดการณ์วันพรุ่งนี้ค่าฝุ่นจะหนักกว่าวันนี้อีก และไปหนักสุดวันที่ 17 ธ.ค. แต่หลังวันที่ 18 ธ.ค. ค่าฝุ่นก็จะลดลง อากาศจะถ่ายเทดีขึ้น ปีนี้การคำนวณค่าฝุ่นเข้มข้นขึ้น อาจจะดูว่ารุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ตัวเลขไม่ได้ขยับขึ้นเพียงแต่สีมันเปลี่ยนตามมาตรฐานที่เข้มข้น ส่วนในกรุงเทพมหานครต้องดูแลทุกพื้นที่ ขณะที่ต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 คิดว่ามาจากรถยนต์พื้นที่ไหนที่มีการจราจรแออัดหนาแน่นบวกกับสภาพอากาศที่กดลงมามากทำให้อากาศไม่ถ่ายเท อัตราการไหลเวียนของอากาศจึงน้อย พร้อมฝากทุกคนให้ช่วยกัน
โดยเฉพาะคนที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่อายุเกิน 7 ปี ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 1 ล้านคัน รถเหล่านี้ถึงแม้จะผ่านการตรวจควันดำ แต่ก็ยังปล่อย PM 2.5 ออกมาจำนวนมาก จึงต้องไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้กรอง ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครก็มีมาตรการร่วมกับกระทรวงพลังงาน แต่ภายในปลายสัปดาห์นี้ก็จะออกมาตรการเพื่อดึงดูดใจคนที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เก่ามาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้ในราคาที่ถูกลง โดยจะร่วมมือกับค่ายรถยนต์ และบริษัทผลิตน้ำมัน นั่นคือหัวใจในการแก้ปัญหาตอนนี้เลย
ผู้ว่าฯ กทม. บอกอีกว่า หลังจากนี้จะติดตาม และประมวลผลอย่างเข้มงวด หากอีกสองวันค่าฝุ่นสูงขึ้นมาก ก็จะออกประกาศให้ประชาชนทำงานจากบ้าน หรือ WFH คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งก็ขอให้งดก่อน ส่วนข้อเสนอที่จะใช้รถพ่นน้ำนั้นอาจจะช่วยได้แค่ความรู้สึก แต่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเมื่อหยุดพ่นน้ำก็จะมีปริมาณฝุ่นเข้ามาเติมแทนทันที แม้ปีนี้คนจะหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลดปริมาณของควันพิษควันดำที่ปล่อยออกมา เพราะเครื่องยนต์รถดีเซลยังมีใช้ในการพาณิชย์
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามนาย ชัชชาติ อีกว่า เมื่อช่วงเช้าหลังจากไปวิ่งออกกำลังกายได้เห็นสภาพฝุ่นในช่วงเช้าหรือไม่ โดยนายชัชชาติตอบว่าช่วงนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างหนัก จึงเปลี่ยนการออกกำลังกายมาวิ่งในยิมแทน