นายกฯ โวย ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำน้อยไป ไม่แฟร์ เทียบสิงคโปร์อย่างต่ำ 1 พันบาท
นายกฯ ไม่สบายใจ ค่าขั้นต่ำปรับขึ้นแค่ 1-2 บาท ชี้ยังซื้อไข่ไก่ไม่ได้ด้วยซ้ำ เสนอทางแก้ควรให้แตะขั้นต่ำที่ 400 บาท เทียบเกาหลีใต้-สิงคโปร์
หลังจากผลประชุมบอร์ดค่าจ้างที่กระทรวงแรงงาน ได้มีการแถลงผลการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำทั้ง 77 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 2-16 บาท ซึ่งค่าจ้างค่าขั้นต่ำที่เพิ่มมากที่สุดคือ จ.ภูเก็ต คือ 370 เพิ่มขึ้นจาก 354 บาท และต่ำที่สุดคือ 330 บาท ใน 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 328 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่าเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่แฟร์ พร้อมกล่าวว่าจะหารือแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำกับไตรภาคีอีกครั้ง ความว่า
“ค่าแรงต้องแฟร์กว่านี้
ต้องขอหารือร่วมกันกับคณะกรรมการไตรภาคีถึงความเหมาะสมให้กับภาคแรงงาน เราต้องดูภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมด
ผมไม่ได้จะมาขึ้นค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างอย่างเดียว แต่ยังมีมาตรการเพิ่มรายได้ให้จากการเปิดตลาดที่มากขึ้น
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหรือนายจ้างก็ได้ประโยชน์กันไปบ้างแล้ว ก็ขอความเห็นใจให้กับกำลังสำคัญอย่างแรงงานในภาคการผลิตด้วย เพราะสุดท้ายหากภาคการผลิตมีกำลังซื้อ เศรษฐกิจภาพรวมก็จะดีขึ้นตามไปด้วยครับ”
นอกจากนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงว่าอย่างน้อยควรจะปรับขึ้นถึง 400 บาท ในจังหวัดใหญ่ ๆ พร้อมกล่าวว่าการขึ้นค่าแรงแค่ 2 บาท ในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้นไม่มีประโยชน์ เพราะจำนวนเม็ดเงินที่แม้แต่จะซื้อไข่ไก่ก็ยังทำไม่ได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีก็ได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกระประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่ค่าแรงขั้นต่ำราว ๆ 1,000 บาท พร้อมวอนให้นายจ้างสนับสนุนการขึ้นรายได้ ไม่ใช่กดค่าจ้างแรงงาน เนื่องจากเป็นกำลังสำคัญในภาคการผลิตของประเทศ พร้อมย้ำว่ามติของคณะกรรมการค่าจ้างจะต้องมีการหารือทบทวนกันใหม่อีกครั้ง