ฝรั่งในเขมร เขียนบทความโจมตีไทย ใช้มุกเดิมช่วงสงครามโลก หาเรื่องรุกรานกัมพูชา

ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในปี 2025 Casey Barnett ประธานและผู้ก่อตั้ง CamEd Business School ในกัมพูชา ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านบัญชีและการเงิน ได้เผยแพร่บทความวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันผ่านมุมมองทางประวัติศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตถึงความคล้ายคลึงกันอย่างน่าตกใจระหว่างสงครามในปัจจุบันกับยุทธศาสตร์ของไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
Casey Barnett ชี้ให้เห็นว่า ข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยในปี 2025 ที่ระบุว่าทหารกัมพูชาทำการยิงข้ามพรมแดนนั้น กำลังถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการปฏิบัติการทางทหารเพื่อรุกรานกัมพูชา ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าเป็นยุทธวิธีเดียวกับที่รัฐบาลไทยเคยใช้เมื่อเดือนมกราคม ปี 1941 (พ.ศ. 2484)
ในครั้งนั้น ไทยอ้างว่ากองกำลังอาณานิคมฝรั่งเศสในกัมพูชาได้ยิงข้ามพรมแดนเข้ามายังอำเภออรัญประเทศ เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการส่งกองทัพเข้ายึดครองดินแดน ซึ่งในความเป็นจริง Barnett ระบุว่าไทยได้เตรียมการสำหรับการรุกรานมานานหลายเดือนแล้ว และสามารถผนวกดินแดนทางตอนเหนือของกัมพูชาและฝั่งตะวันตกของลาวได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
บทความยังย้อนรอยไปถึงการตัดสินใจของไทยในวันที่ 12 มิถุนายน 1940 (พ.ศ. 2483) ที่เลือกจะลงนามในสนธิสัญญากับญี่ปุ่น ทั้งที่รับรู้ถึงพฤติการณ์อันโหดร้ายของกองทัพญี่ปุ่นในจีน โดยเฉพาะเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิงปี 1937
ความร่วมมือนำไปสู่ข้อตกลงเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม 1941 ซึ่งญี่ปุ่นได้รับรองสิทธิเหนือดินแดนที่ไทยยึดครองแลกกับการที่ไทยยอมเป็นฐานที่มั่นและศูนย์กลางการส่งกำลังบำรุงให้ญี่ปุ่นในการพิชิตมลายูของอังกฤษและพม่า ช่วงปี 1941-1942 ผลตอบแทนคือการที่ญี่ปุ่นโอน 6 จังหวัดจากมลายูและพม่าให้แก่ไทยในเดือนกรกฎาคม 1943
อย่างไรก็ตาม แม้เป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น แต่แลกมาด้วยโศกนาฏกรรมบน “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” เชื่อมต่อกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง ซึ่ง Barnett ระบุว่าไทยได้รับประโยชน์จากการใช้แรงงานทาสและเชลยศึกของญี่ปุ่น โดยมีเชลยศึกชาวอังกฤษกว่า 6,904 คน และชาวอเมริกัน 131 คน ต้องจบชีวิตลงจากสภาพการทำงานที่ทารุณ
ในช่วงท้ายของบทความ Barnett วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอยว่า ภายหลังฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ ไทยถูกบีบให้คืนดินแดนทั้งหมด แต่กลับไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำรุกรานมากนัก
แม้ว่าอังกฤษต้องการใช้มาตรการลงโทษขั้นรุนแรง รวมถึงการยึดครองไทยในระยะยาว แต่สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าการลงโทษที่รุนแรงเกินไปจะสร้างความไม่มั่นคงให้แก่ไทยและภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงรอดพ้นจากการรับผิดรับชอบอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยต่อการขยายดินแดนในยุคสงคราม
Barnett ทิ้งท้ายด้วยข้อความที่ชวนให้ตระหนักว่า เพราะความทรงจำร่วมเกี่ยวกับผลกระทบในอดีตที่เลือนหายไป ทำให้ในปี 2025 ไทยจึงหวนกลับมาใช้ยุทธวิธีเดิมในการรุกรานกัมพูชาอีกครั้ง
ปัจจุบันโพสต์นี้มีคนแชร์ไปแล้วกว่า 1.1 หมื่นครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อันวาร์ เผย ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมประชุมถกปัญหาชายแดน 22 ธ.ค.
- กองทัพภาค 2 ยึดเงินสด 11 ล้าน โกดังตรงข้ามกาสิโน คาดใช้สนับสนุนทัพเขมร
- เขมรผวาจัด ห้ามบินโดรนเหนือกรุงพนมเปญ กลัวไทยใช้ถล่มเมืองหลวง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



